13 สถานที่เที่ยวในจังหวัดหนองคาย

แม้ภาคอีสานจะไม่มีทะเล แต่ที่หนองคายหน้าร้อนมีชายหาดนะ หาดจอมมณี หรือ พัทยาอีสาน เป็นหาดทรายน้ำจืดริมแม่น้ำโขงความยาวประมาณ 200 เมตร อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร ไม่ไกลจากสะพานมิตรภาพไทย – ลาว จึงกลายเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวหนองคาย และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุด Unseen แห่งหนี่งของหนองคาย เพราะหาดจอมมณีจะมีเฉพาะในช่วงหน้าแล้ง โดยช่วงที่ดีที่สุดที่จะเที่ยวชมหาดจอมมณี คือ เดือนเมษายน

พระธาตุศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหนองคาย หรืออีกชื่อหนึ่งคือ พระธาตุหล้าหนอง พระธาตุขนาดใหญ่ริมน้ำโขง แต่พังทลายลงเนื่องจากกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากของแม่น้ำโขง ภายหลังจากที่ตัวพระธาตุจมลงกลางน้ำ จึงเหลือเพียงฐานก่ออิฐสี่เหลี่ยมของตัวพระธาตุดโผล่พ้นน้ำขึ้นมาเพียงครึ่งฐานกลางลำน้ำโขง ต่อมาทางจังหวัดจึงได้สร้างพระฐานจำลองริมฝั่งโขงขึ้นมาใหม่ โดยน้ำส่วนของพระธาตุองค์เดิมที่จมน้ำไปมาประดิษฐานไว้ภายใน พร้อมสร้างกำแพงป้องกันตลิ่งชัน และจัดสภาพภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงาม นอกจากจะเป็นที่เคารพบูชาของชาวหนองคายแล้ว พระธาตุแห่งเมืองบาดาลแห่งนี้ยังเป็นที่ท่องเที่ยวยอดฮิต เพราะเป็นพื้นที่จัดงานบุญบั้งไฟทุกปีอีกด้วย

3. ประติมากรรมพญานาค 2 องค์ ลานวัฒนธรรมริมโขงหน้าวัดลำดวน

Landmark ทีเด็ดที่มาหนองคายแล้วต้องไม่พลาดมาเช็คอินที่แห่งนี้ เป็นพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ ที่สำคัญของเมืองหนองคาย เช่น งานวันออกพรรษา และเป็นจุดชมบั้งไฟพญานาคสุดฮิต เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานปะติมากรรมพญานาคอันวิจิตรงดงามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในหนองคายถึง 2 องค์

4. ศาลาแก้วกู่หรือ วัดแขก

อุทยานเทวาลัยแห่งความศรัทธา อันเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่สวยงามแปลกตา จัดแสดงรูปปั้นก่ออิฐถือปูนเรื่องราวทางศาสนา ซึ่งมีชื่อเสียงโดดเด่นในเรื่องความยิ่งใหญ่อลังการ อยู่ห่างจากตัวเมืองหนองคายเพียง 3 กิโลเมตร ใครชื่นชอบศิลปะงานปั้นต่างๆ แวะมาที่วัดแห่งนี้ไม่มีผิดหวัง

5. ตลาดท่าเสด็จ และ ถนนคนเดินเมืองหนองคาย

แหล่งซื้อขายผลิตภัณฑ์ชุมชน หรือสินค้า OTOP ของหนองคาย บนพื้นที่ริมแม่น้ำโขงในตัวเมืองหนองคาย ซึ่งนอกจากเป็นที่ซื้อหาสินค้าพื้นเมือง และของที่ระลึกของจังหวัดหนองคายแล้ว ยังเป็นสามารถมาเดินเล่นชมวิวชิลล์ ๆ ของบรรยากาศริมฝั่งโขงยามเช้าได้อีกด้วย ส่วนในวันหยุดบริเวณตลาดท่าเสด็จยังเป็นกลางถนนคนเดิน ที่เปิดให้ชาวหนองคายและนักท่องเที่ยวมาเลือกสรรของกินของใช้หลังพระอาทิตย์ตกดินแล้วอีกด้วย เรียกว่าเป็นทำเลสุดไพร์มที่มีผู้คนคึกคักทั้งเช้าและเย็นกันเลย

6. พระธาตุบังพวน

วัดซึ่งเป็นพุทธศาสนสถานสำคัของนิกายมหายาน มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน และเป็นวัดเดียวในโลกที่ยังคงหลงเหลือโบราณสถานอันเป็น “สัตตมหาสถาน” จากอดีตครบ 7 สิ่ง ซึ่งคือการจำลองสถานที่อันเกี่ยวกับพระพุทธองค์หลังจากตรัสรู้มแล้วจำนวน 7 แห่งที่ถูกสร้างขึ้นตามพุทธศาสนคติ ภายในประดิษฐานโบราณวัตถุสำคัญทางศาสนาไว้หลายอย่าง ได้แก่ หลักศิลาจารึก พระปางนาคปรกพระธาตุบังพวน และพระปรางค์ 3 องค์ เป็นต้น

ภูเขาหัวโล้นที่ไม่มีต้นไม้ขึ้นสักต้นเดียว มีเพียงแต่ทุ่งหญ้าสีเหลืองทองทั่วบริเวณภูเขา ด้วยลักษณะของภูมิประเทศที่เป็นแหล่งขุดแร่ทอง และทองแดงในอดีต จึงเป็นที่มาของชื่อ ภูโล้น อยู่ห่างจากห้วยอีสันเพียง 6 กิโลเมตร นับเป็นอีกหนึ่งจุดชมทัศนียภาพริมน้ำโขง พร้อมทั้งเกาะแก่งกลางลำน้ำโขง พร้อมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของหนองคายอีกแห่งหนึ่ง ในอำเภอสังคม ห่างจากตัวเมืองประมาณ 117 กิโลเมตร

8. ชมทะเลหมอก ภูห้วยอีสัน

ใครว่าอีสานไม่มีทะเลหมอก ก็ที่นี่ไง “ภูห้วยอีสัน” จุดชมวิวทะเลหมอกสุด Unseen ของจังหวัดหนองคาย ซึ่งถือเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกสีขาวที่ลอยอ้อยอิ่ง ไปพร้อม ๆ กับแสงสีทองอร่ามของพระอาทิตย์ยามเช้าที่สวยงาม ในแบบพาโนรามากว้างไกลสุดสายตา 360 องศา เมื่อพระอาทิตย์เริ่มขึ้นและสายหมอกค่อย ๆ มลายหายไป ยังจะได้ชมวิวของลำน้ำโขงอันคดเคี้ยวที่ห้องล้อมด้วยผืนป่าเขียวชะอุ่มที่เบื้องล่าง เรียกได้ว่ามาชมวิวทะเลที่นี่ที่เดียวได้สองต่อเลย โดยตลอดเส้นทางขึ้นไปบนยอดภูห้วยอีสันนั้น มีจุดชมวิวทะเลหมอกถึง 2 จุดด้วยกัน คือจุดแรกในพื้นที่ครัวไม้น้ำ และอีกจุดหนึ่งบนจุดสูงสุดของภู ในพื้นที่ อบต.บ้านม่วง ทั้ง 2 แห่งสามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลหมอกได้ในมุมมองที่แตกต่างกัน แต่สวยเหมือนกัน

อย่าเพิ่งตกตะลึงที่แดนอีสานอย่างหนองคาย นอกจากมีทะเลหมอกแล้ว ยังไม่ได้มีเพียงแค่หนึ่ง กับจุดชทวิวทะเลหมอก ภูผาดัก อีกหนึ่งจุดชมวิวสายหมอกสีขาวละมุนไหลอ่อยเหนือลำน้ำโขงมนอำเถอสังคม ซึ่งมีลักษณะหน้าผาบนภูเขาสูงเหนือลำน้ำโขง การเดินทางค่อนข้างลำบากเพราะต้องเดินเทาขึ้นเขาอันสูงชันราว ๆ 900 เมตรแต่รับรองได้ว่าความสวยงามของบรรยากาศตรงหน้าคุ้มค่าความพยายามอย่างแน่นอน

10. พันโขดแสนไคร้

แหล่งท่องเที่ยวที่เพิ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวเพียงไม่นานมานี้ ด้วยทัศนียภาพอันสวยงามของเกาะแก่งกลางแม่น้ำโขง ซึ่งเกิดจากก้อนหินหลากหลายรูปทรง และสีสัน โดนเฉพาะหินนิลสีดำมันวาวอันโดดเด่น ที่วางตัวกระจัดกระจายตลอดความกว้างของลำน้ำโขง จนได้รับสมญานามว่า “แกรนด์แคนยอนกลางแม่น้ำโขง” นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทิวทัศน์สวยงามอลังการมาก ๆ แล้วยังจัดเป็นที่ Check In สุดฮิปของนักเที่ยวสายอินดี้ทั้งหลาย เพราะมันสวยจนใจละลายแล้วที่สำคัญยังไม่ค่อยมีใครเหมือนอีกด้วย

น้ำตกขนาดกลางในอำเภอสังคม มีน้ำไหลผ่านตลอกทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวน้ำตกมากที่สุด ตัวน้ำตกตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ แบ่งออกเป็น 3 ชั้น โดยชั้นแรกเป็นชั้นที่เหมาะแก่การลงเล่นน้ำ มีความสูงเพียง 30 เมตรธารน้ำจากโขดหินไหลลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างที่ไม่ลึกนัก และชั้นที่ 2 เป็นชั้นที่สูงที่สุด และสวยที่สุด ด้วยลำสายน้ำสีขาวที่ไหลลงมาจากผาหินความสูงกว่า 100 เมตรที่สวยงามและสุดอลังการ จึงถือเป็นน้ำตกหนึ่งในจังหวัดหนองคายที่ไม่ควรพลาด

12. น้ำตกธารทอง

ธารน้ำอันสวยงามในอำเภอสังคม ที่ไหลไปตามลานหินซึ่งวางตัวลดหลั่นกันไปตลอดระยะทาง 30 เมตร เพื่อออกสู่แม่น้ำโขง รายล้อมด้วยสวนพฤกษชาติ และป่าไม่อันอุดมสมบูรณ์ร่มรื่นย์ เขียวชะอุ่ม บรรยากาศร่มเย็น สงบเงียบ เหมาะแก่การมาปลีกวิเวก พักผ่อนหย่อนใจอยู่กับตัวเองแบบใกล้ชิดธรรมชาติเป็นที่สุด

13. จุดชมวิวสกายวอค์ล วัดผาตากเสื้อ

ไฮไลท์และแลนด์มาร์คใหม่ของจังหวัดหนองคาย กับจุดชมวิวสกายวอล์ควัดผาตากเสื้อ จุดชมวิวสกายวอล์คแห่งแรกของประเทศไทย ในอำเภอสังคมของจังหวัดหนองคาย ภายในพื้นที่ของวัดผาตากเสื้อ ตั้งอยู่บนเนินเขาบ้านดงต้อง ที่สามารถชมวิวมุมสูงแบบ 180 องศาของลำน้ำโขง บนพื้นที่สีเขียวอันอุดมสมบูรณ์ทั้งสองฝั่งโขงตามเขตแนวพรมแดนไทย – ลาว จัดเป็นทีเด็ดจุดชมทัศนียภาพริมน้ำโขง พร้อมยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกแสนสวยของหนองคาย โดยเฉพาะในวันอากาศดีมีทะเลหมอกยามเช้า ยังเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกสุดปังอีกด้วย