10 ที่สุดอุทยานแห่งชาติ เที่ยวอุทยานแห่งชาติน่าปักหมุด

10 ที่สุดอุทยานแห่งชาติ จากอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เดินทางไปสัมผัสธรรมชาติที่หลากหลายในทุกฤดูการท่องเที่ยว

ใครที่เป็นขาเที่ยวอุทยานแห่งชาติ น่าจะรู้ว่าอุทยานแห่งชาติแต่ละภาคของเรานั้น ล้วนแล้วมีเสน่ห์และที่เที่ยว ที่น่าค้นหาแตกต่างกันไป หลายคนเลือกที่จะใช้เวลาว่างและวันหยุด ออกตระเวนเก็บลิสต์ที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ แต่สำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี เพราะไม่รู้ว่าที่ไหนมีจุดเด่นอะไรบ้าง วันที่เรามี 10 ที่สุดอุทยานแห่งชาติ ซึ่งทางอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ทำลิสต์เอาไว้ บอกเลยว่าแต่ละที่สุดน่าไปมาก ๆ

กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้จัดอันดับ 10 ที่สุดแหล่งท่องเที่ยวโดดเด่นทางธรรมชาติ ประกอบด้วย

ชวนไปหลงรักผืนป่า กับอุทยานแห่งชาติ ที่มีทัศนียภาพสวยงาม เดินป่าด้วยใจเกินร้อยเพื่อออกไปชมความงามหลักล้านในผืนป่าอนุรักษ์ เอาใจสายลุยที่ชอบเดินป่า สัมผัสบรรยากาศความเขียวขจีรอบตัว 

1. เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้นบนดอยอินทนนท์ บรรยากาศโดยทั่วไปของที่นี่จะมืดครึ้ม มีแสงแดดลอดผ่านเข้ามาแบบรำไรท่ามกลางมอสที่ห้อยระย้า ฝอยลมตามต้นไม้ขนาดใหญ่ และเฟิร์นหลากชนิด ปกคลุมด้วยหมอกขาวและอากาศเย็นจัดตลอดทั้งปี

2. เส้นทางศึกษาธรรมชาติเขาหงอนนาค อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา – หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยอยู่ส่วนปลายสุดของเส้นทางเดินป่า สามารถมองเห็นวิวของท้องทะเลกระบี่และภูเขาหินปูนน้อยใหญ่ได้ไกลสุดลูกหูลูกตา

3. เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกลเขาสันหนอกวัว อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี

เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม สามารถมองเห็นวิวของทะเลหมอกได้อย่างสวยงามอลังการสุด ๆ โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวและช่วงหน้าหนาว จะมีทะเลหมอกให้ได้ยลโฉมกันเกือบทุกวัน 

4. เส้นทางศึกษาธรรมชาติลานสนภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โดยเส้นทางการเดินป่าภูสอยดาวจะเริ่มต้นที่ “น้ำตกภูสอยดาว” และไปสิ้นสุดที่ “จุดพิชิตภูสอยดาว” หรือ “ลานภูสอยดาว” รวมระยะทางประมาณเกือบ 7 กิโลเมตร ส่วนระยะเวลาที่ใช้ขึ้นอยู่กับสภาพความแข็งแรงของร่างกายของแต่ละคน

5. เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.33 – หนองผักชี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

จุดที่นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวทิวทัศน์ด้านทิศเหนือของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้เป็นมุมกว้าง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวมักจะมาแวะพักชมวิวกันที่นี่ รวมถึงยังเป็นจุดที่ท่องเที่ยวสายป่าที่จะมาซุ่มดูสัตว์ป่าในเขาใหญ่ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ เพราะได้ใกล้ชิดธรรมชาติสุด ๆ 

6. เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกลดอยลังกาหลวง อุทยานแห่งชาติขุนแจ จังหวัดเชียงราย

ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติขุนแจ สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามสลับซับซ้อนของเทือกเขาผีปันน้ำ และสภาพความหลากหลายของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี แถมบนยอด ดอยลังกาหลวง สามารถมองเห็นทิวทัศน์รอบตัวได้แบบ 360 องศา อีกด้วย

7. เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกลเด่นช้างนอน อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน

ตั้งอยุ่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคาพบจุดไฮไลต์ที่ยอดเขาสูง 1700 เมตร กับมุมภูเขาสูงตะหง่านเป็นสันคมมีด การพิชิตเด่นช้างนอนต้องมีความพร้อม และสภาพร่างกายที่แข็งแรง เพราะว่าทางเดินค่อนข้างชันและใช้ระยะเวลาพอสมควร บนดอยจะไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก โดยที่แคมป์สามารถนอนเต็นท์หรือเปลก็ได้ 

8. เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยหลวงตาก อุทยานแห่งชาติ ดอยสอยมาลัย – ไม้กลายเป็นหิน จังหวัดตาก

มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเป็นระยะทางไป-กลับ 22 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางเดินคุณจะได้สัมผัสทั้งธารน้ำ ป่าโปร่ง ป่าสน ทุ่งหญ้า หน้าผาหิน และป่ากล้วยดิบชื้น นับเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ สำหรับการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ 

9. ป่าชายเลนสิรินาถราชินี วนอุทยานปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ภายในศูนย์ฯ มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และมีมัคคุเทศก์เยาวชนคอยให้ความรู้เกี่ยวกับพื้นที่ป่าชายเลนทั้งหมด นักท่องเที่ยวจะเพลิดเพลินไปกับความสวยงามของธรรมชาติที่ยากเกินจะบรรยาย

10. เส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกลยอดเขาเหมน อุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง จังหวัดนครศรีธรรมราช

อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกโยง ไฮไลต์ของที่นี่คือ จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินสวยน่าประทับใจ มีลักษณะเป็นเส้นป่าดงดิบที่มีต้นไม้ไม่สูงมาก มีลำธารให้สามารถลงอาบน้ำได้ ถ้าใครมีสัมภาระเยอะ ที่นี่มีลูกหาบให้บริการด้วย

พบกับศาสตร์แห่งการบำบัด สัมผัสมหัศจรรย์จากธรรมชาติ บำบัดร่างกายให้ผ่อนคลาย ด้วยความร้อนและแร่ธาตุจากธรรมชาติ

1. บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว จังหวัดระนอง

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว น้ำใสสะอาด ไม่มีกลิ่นกำมะถัน โดยแบ่งเป็น 2 บ่อ คือ บ่อน้ำร้อน และบ่อน้ำเย็น นอกจากนี้ยังมีน้ำแร่ไหลผสมในลำคลองด้านล่างไหลผ่านบ่อน้ำแร่ร้อน และมีสปาปลาในลำธารให้ปลาตอดเล่นก็เพลินไปอีกด้วย

2. น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง

ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป และมีไอน้ำลอยกรุ่นขึ้นมาจากบ่อปกคลุมรอบบริเวณ นิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่ จนกลายเป็นสัญลักษณ์การมาเที่ยวที่นี่

3. น้ำพุร้อนฝาง อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก จังหวัดเชียงใหม่

บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เกิดจากความร้อนใต้ดิน บ่อที่ใหญ่ที่สุดมีไอน้ำร้อนแบบไกเซอร์ ซึ่งจะพุ่งขึ้นสูงได้ถึง 40-50 เมต โดยทางอุทยานได้จัดทำพื้นที่ไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวในการอาบน้ำแร่และอบไอน้ำ หรือใครจะลองต้มไข่พิสูจน์ความร้อนของน้ำก็ได้

4. น้ำพุร้อนโป่งเดือด อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่

น้ำพุร้อนที่มีขนาดใหญ่แบบไกเซอร์ สำหรับที่บ่อน้ำพุร้อนโป่งเดือด น้ำจะพุ่งขึ้นมาสูงราว ๆ 1-2 เมตรเลยทีเดียว และบ่อเล็ก ๆ รอบ ๆ และมีการจัดพื้นที่ไว้ให้ประชาชนได้แช่น้ำพุร้อน และทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วย บรรยากาศโดยรอบสวยงาม ร่มรื่น มีทางเดินให้เดินเที่ยวชมรอบ ๆ ด้วย

5. น้ำพุร้อนท่าปาย อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง จังหวัดเชียงใหม่

เป็นบ่อน้ำร้อนที่เดือดขึ้นเป็นจุด ๆ กระจายออกเป็นบริเวณกว้าง มีหมอกควันปกคลุมพื้นที่ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและชาวไทยนิยมมาเที่ยวเป็นจำนวนมากเนื่องจากอยู่ใกล้กับอำเภอปาย เส้นทางการคมนาคมสะดวกสบายแต่ไม่มีบ้านพักรับรองสำหรับนักท่องเที่ยว มีบริการอาบน้ำแร่เป็นบ่อเปิดแบบธรรมชาติให้บริการ

6. น้ำพุร้อนโป่งกระทิง อุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน จังหวัดราชบุรี

ตั้งอยู่ในอำเภอบ้านคา ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ที่นี่เหมาะสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนรักสุขภาพ มีลักษณะเป็นบ่อน้ำร้อนแบบบ่อธรรมดาขนาดเล็ก ภายในบริเวณสามารถกางเต็นท์ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจได้ชิล ๆ 

7. น้ำตกภูซาง อุทยานแห่งชาติภูซาง จังหวัดพะเยา

ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูซาง โดยความแปลกของน้ำตกภูซาง อยู่ตรงที่เป็นน้ำตกที่มีน้ำอุ่นเพียงแห่งเดียวที่พบในประเทศไทย และน้ำใสปราศจากกลิ่นกำมะถัน สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งบริเวณใต้ น้ำตกภูซาง ยังเป็นแอ่งน้ำสีเขียวมรกตใส จึงเหมาะสำหรับการลงแช่น้ำให้อบอุ่นสบายตัว

8. บ่อน้ำร้อนห้วยน้ำนัก อุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ จังหวัดตาก

ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยน้ำนัก ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ มีด้วยกันทั้งหมด 3 บ่อ คือบ่อหนึ่งที่ถือเป็นบ่อไฮไลต์ ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าของพื้นที่ บ่อสองตั้งอยู่ถัดเข้าไปมีขนาดเล็กสุด ส่วนบ่อที่สามเป็นบ่อใหญ่ที่สุด ชาวบ้านเรียก “บ่อช้าง” ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะมาแช่บ่อน้ำร้อน

9. น้ำพุร้อนเทพพนม อุทยานแห่งชาติออบหลวง จังหวัดเชียงใหม่

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติออบหลวง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติเกิดจากความร้อนใต้พิภพที่ไหลเอ่อออกมาจากใต้ผิวดิน รวมแล้วมีมากกว่า 15 บ่อ เจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ได้เข้าปรับปรุงพื้นที่ให้สวยงามน่าเที่ยวชม ด้านหลังของบ่อน้ำร้อนยังเป็นทิวเขาสวยงาม มีบ่อแช่ตัว และโรงนวดตัวไว้บริการด้วย

10. บ่อน้ำร้อนโป่งอาง อุทยานแห่งชาติผาแดง จังหวัดเชียงใหม่

เป็นบ่อน้ำร้อนขนาดเล็ก​ มีจำนวน 2​ บ่อ​ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติผาแดง มีแก๊สและกำมะถันเป็นไอน้ำระเหยขึ้นมาตลอดปี ภายในบริเวณโป่งอางมีบ่อน้ำร้อน 2 บ่อ ไหลไปรวมกันเป็นลำธารเล็ก ๆ และมีบ่อแช่น้ำร้อนธรรมชาติสำหรับนักท่องเที่ยวได้แช่ สำหรับใครที่ต้องการพักค้างแรมมีจุดกางเต็นท์ให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย

แนะนำอุทยานแห่งชาติสายมู ที่สุดแห่งความเชื่อและศรัทธา ใครที่อยากเดินทางท่องเที่ยวเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตไปด้วยในตัว ลองมาเช็กลิสต์กัน 

1. ถ้ำนาคา อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม

ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่เกิดจากพื้นผิวของหินเกิดการกัดกร่อนไปตามปรากฏการณ์ซันแครก (Sun Crack) ทำให้มีลวดลายคล้ายเกล็ดปลาหรือเกล็ดงู ประกอบกับการโค้งตัวของหินทำให้รูปร่างโดยรวมคล้ายกับการขดตัวของงูใหญ่หรือพญานาค (ตามความเชื่อ)

2. รอยพระบาทเขาคิชฌกูฏ (พระบาทพลวง) อุทยานแห่งชาติเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่แต่ละปีจะมีประชาชนชาวพุทธและบรรดานักแสวงบุญเดินทางไปกราบไหว้อย่างคับคั่งเสมอ ด้วยความเชื่อที่ว่าการได้ขึ้นไปนมัสการก็เหมือนการได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าอย่างใกล้ชิด สักครั้งในชีวิตจะต้องเดินทางขึ้นไปสักการะให้ได้ เพื่อเป็นการเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต

3. เจดีย์พระธาตุดอยหนอก อุทยานแห่งชาติดอยหลวง จังหวัดพะเยา

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองของชาวพะเยาและชาวลำปาง ตั้งอยู่บนยอดดอยหนอก อันเป็นหมุดหมายสำคัญของเหล่านักเดินป่า และยังเป็นที่สักการะของชาวพะเยา ลำปาง และเชียงราย

4. ถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จุดเด่นของถ้ำแห่งนี้คือ “พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์” เป็นพลับพลาแบบจัตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งไว้บนเนินดินกลางถ้ำ นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีหินงอกหินย้อยเป็นเชิงชั้นเหมือนม่านให้ได้ชมกันอีกด้วย

5. เจ้าแม่นางนอน อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย

ตั้งอยู่ภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ปัจจุบันมีผู้คนที่มีความเชื่อเคารพศรัทธาเข้าไปสัการะขอพรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ขอให้เกิดความสำเร็จ และสมหวังดั่งที่ได้ตั้งจิตอธิษฐาน

6. ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

ตั้งอยู่หน้าด่านทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าประชาชนทั่วไปให้ความเคารพนับถือ บ้างก็มากราบไหว้ขอพร ขอโชคขอภาภก่อนผ่านเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 

7. เขารังเกียบ อุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว จังหวัดปัตตานี

จุดชมวิวอุทยานแห่งชาติน้ำตกทรายขาว และยังเป็นสถานที่ประดิษฐานของพระพุทธมหามุนินท์โลกนาถ และ ศาลทวดรังเกียบ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำชุมชนบ้านทรายขาว

8. เขาพระวิหาร อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร จังหวัดศรีษะเกษ

เป็นโบราณสถานที่มีความงดงาม โดดเด่นอยู่เหนือเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งกั้นพรมแดน ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา ประกอบด้วยหมู่เทวาลัยและปราสาทหินจำนวนมาก ทั้งหมดสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะ สวยงามและมีเสน่ห์ชวนน่ายล

9. เขื่อนเขาแหลม (วัดสมเด็จเก่า) อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี

วัดที่ไม่ได้จมน้ำ แต่ถูกทิ้งร้างเมื่อครั้งย้ายอำเภอสังขละบุรี ตอนสร้างเขื่อนเขาแหลมหรือเขื่อนวชิราลงกรณ วัดตั้งอยู่บนเนินเขาเล็ก ๆ ที่มีต้นไม้ปกคลุม ภายในโบสถ์มีพระพุทธชินราชองค์ที่ 17 ที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ น่าเยี่ยมชมเป็นอย่างยิ่ง

10. ลานพระแก้ว อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย

ลานหินกว้างที่ปกคลุมด้วยมอสและไลเคนขึ้นเป็นหย่อม ๆ และยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2463 บริเวณลานหินที่กว้างขวางมีพรรณไม้ขึ้นอยู่ทั่วไป ในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะพากันออกดอกให้ได้เห็น

ชมความงดงามหลากสีสันของธรรมชาติ ที่รอต้อนรับด้วยดอกไม้ป่านานาชนิด ให้ทุกคนได้เข้าไปสัมผัสและหลงรักธรรมชาติมากขึ้น

1. หุบเขาแห่งดอกไม้ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

บริเวณ “ลานหินปุ่ม-ผาชูธง” ของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้เห็นความหลากหลายของธรรมชาติ ทั้งพันธุ์ไม้ ดอกไม้ และก้อนหินใหญ่สวยงามชวนให้ดูแปลกตา

2. ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และอุทยานแห่งชาติไทรทอง จังหวัดชัยภูมิ

ทุ่งดอกกระเจียวภายในอุทยานทั้งสองแห่ง เป็นทุ่งดอกกระเจียวป่าที่เกิดและเติบโตขึ้นเองตามธรรมชาติ และกระเจียวเป็นพืชล้มลุกประเภทหัว พบเป็นพรรณไม้ประจำถิ่นที่ขึ้นมากที่สุดในประเทศไทย ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และอุทยานแห่งชาติไทรทอง

3. ป่าเปลี่ยนสียอดภูกุ่มข้าว อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์

ผืนป่าบริเวณนี้ซึ่งเป็นป่าผสมผลัดใบ ก่อนที่พรรณไม้จะผลัดใบ จะมีปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ใบไม้ในป่าเต็งรังและป่าเบญจพรรณเปลี่ยนสีจากสีเขียวเป็นสีเหลืองและแดงทั่วทั้งป่าในช่วงหน้าแล้ง เกิดเป็นสีสันของธรรมชาติที่แปลกตามาก 

4. ทุ่งดอกไม้ป่าบนพลาญหิน อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี และอุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ จังหวัดมุกดาหาร

ยลทุ่งดอกไม้ป่านานาชนิด ที่สสลับสับเปลี่ยนออกดอกให้นักท่องเที่ยวเชย ไม่ว่าจะเป็น ทุ่งดอกกระดุมเงิน สร้อยสุวรรณา ทิพเกสร มณีเทวดา และสรัสจันทร คอยให้นักท่องเที่ยวมาเก็บเกี่ยวความสวยงามถึงที่

5. ป่าเฟิร์นโบราณอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช

ชมมหัศจรรย์แหล่งกล้วยไม้ ณ บริเวณดินแดนคาบสมุทรทางภาคใต้ของประเทศไทย ในจังหวัดนครศรีธรรมราช มีเทือกเขาสูงสลับซับซ้อนทอดตัวเป็นแนวยาว ชวนให้น่าประทับใจ 

6. ทุ่งดอกหงอนนาค อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของภูสอยดาว กับ “ทุ่งดอกหงอนนาค” บริเวณลานสน ที่จะบานสะพรั่งในทุก ๆ หน้าฝน รวมทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ชมระหว่างทางมากมาย

7. ดอกชมพูภูคา อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน

พรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ของโลก ซึ่งพบดอกไม้ชนิดนี้ได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่านเท่านั้น และเพราะว่าดอกชมพูภูคาเป็นดอกไม้ที่ค่อนข้างมีความเปราะบาง เวลาเข้าไปเยี่ยมชม เราเองควรที่จะต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน

8. บัวผุด อุทยานแห่งชาติเขาสก และอุทยานแห่งชาติคลองพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีรูปร่างลักษณะคล้ายขันน้ำ และล้อมรอบด้วยกลีบดอกไม้กลีบใหญ่สีแดง 5 กลีบ ส่วนใหญ่จะอยู่ในป่าที่มีความสมบูรณ์และอยู่ในระดับที่สูงพอสมควร เป็นอีกหนึ่งความอะเมซิ่งทางธรรมชาติที่น่าค้นหา

9. ป่าสนธรรมชาติทุ่งนางพญาเมืองเลน อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก

มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าแบบสะวันนา และทุ่งหญ้าสลับกับป่าสนสองใบ มองเห็นเป็นพื้นที่โล่งกว้างใหญ่ตามเส้นทางจะตัดผ่านป่าเบญจพรรณ มีสัตว์ป่าออกมาหากินตามข้างทาง และอุดมไปด้วยพรรณไม้ดอกมากมาย 

10. ดอกเสี้ยว อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง

โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมี “ดอกเสี้ยวป่า” ต้นไม้พื้นเมืองประจำถิ่นซึ่งถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของตำบลแจ้ซ้อน ออกดอกบานสะพรั่งดูสวยงามยิ่งนัก

ชมผืนน้ำ ผืนป่า และท้องฟ้าที่สดใส กับความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติทางน้ำ ที่สวยที่สุดในอุทยานแห่งชาติ

1. เขื่อนเชี่ยวหลาน อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฏร์ธานี

ชมความงามธรรมชาติของป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ บรรยากาศเงียบสงบ อากาศเย็นสบายสดชื่น ตลอดจนน้ำในเขื่อนยังสวยใส มีสีเขียวมรกต มองเห็นปลาต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน

2. ปางอุ๋ง อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ตั้งอยู่ที่บ้านห้วยผา บริเวณโดยรอบเป็นลำธารและป่าเขา ถ้ำปลาตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่กว้าง ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา และมีปลาตัวโต ๆ อาศัยอยู่เป็นจำนวนมากให้ได้ชม 

3. ลำน้ำแควน้อย อุทยานแห่งชาติไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

แม่น้ำสายสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีที่มีทัศนียภาพงดงาม สองฟากฝั่งเต็มไปด้วยวิวสวย ๆ บางช่วงก็เป็นป่าไม้อุดมสมบูรณ์ บางช่วงก็เป็นแนวภูเขาสูงใหญ่ การได้นั่งเรือชมวิว จึงเป็นเหมือนการชาร์จพลังกับธรรมชาติที่ดีมาก ๆ

4. แก่งก้อ อุทยานแห่งชาติแม่ปิง จังหวัดลำพูน

ทะเลสาบที่เป็นส่วนหนึ่งของอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล มีทัศนียภาพอันงดงาม นักท่องเที่ยวนิยมพักเรือนแพและนั่งเรือชมความงามของหน้าผาหินปูนและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ที่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยและป่าเบญจพรรณริมฝั่งน้ำ

5. อ่างเก็บน้ำเขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล อุทยานแห่งชาติศรีลานนา จังหวัดเชียงใหม่

สถานที่ท่องเที่ยวมีความสำคัญทั้งในแง่เกษตรกรรมและการท่องเที่ยว เนื่องจากภูมิทัศน์รอบเขื่อนมีความสวยงาม มีลมพัดเย็น ๆ ชวนให้ง่วงนอนได้ตลอดทั้งวัน เป็นทั้งแหล่งดูนก แหล่งชมปลามากมายหลากหลายชนิด

6. เขื่อนศรีนครินทร์ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ ล้อมรอบทิวทัศน์ที่สวยงาม โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูงใหญ่ บรรยากาศเงียบสงบ อากาศเย็นสบาย นักท่องเที่ยวจึงนิยมที่จะมาพักผ่อนหย่อนใจกันที่นี่

7. จุดชมวิวทิวทัศน์ป้อมปี่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี

เป็นบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม สามารถมองเห็นวิวของพระอาทิตย์ตกดินบรรยากาศเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สามารถมานอนพักกางเต็นท์ได้ 

8. เขื่อนแม่กวงอุดมธารา อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ จังหวัดเชียงใหม่

อีกหนึ่งจุดเช็กอินที่จะทำให้คุณฟินกับบรรยากาศธรรมชาติของเชียงใหม่ ไฮไลต์ที่น่าสนใจเห็นจะอยู่ที่สะพานแขวนสูงใหญ่เหนือลำธารของเขื่อนแม่กวงอุดมธารา เป็นที่เช็กอินความชิลแบบสโลว์ไลฟ์

9. อ่างเก็บน้ำแก่งกระจาน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

ตั้งอยู่ภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มีลักษณะเป็นเขื่อนดิน รายล้อมไปภูเขาสีเขียวขจีจากพื้นป่าที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้เกิดเป็นทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เหมาะแก่มาพักผ่อน

10. อ่างเก็บน้ำเขื่อนสิริกิติ์ อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์

อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เกิดจากการสร้างเขื่อนสิริกิต์ขวางกั้นลำน้ำน่าน ภายในอ่างเก็บน้ำปรากฎเกาะแก่งอยู่มากมาย จึงมีทัศนียภาพงดงามเหมาะสำหรับการล่องเรือชมทิวทัศน์และสามารถล่องเรือแบบชิล ๆ 

เข้าสู่ฤดูฝน ความชุ่มชื้นของผืนป่าก็กลับมาอีกครั้ง พาไปท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ กับ 10 ที่สุดอุทยานแห่งชาติที่มีน้ำตกที่สวยที่สุด ที่สวย แปลก และแตกต่างไปตามภูมิประเทศ และสร้างความประทับใจให้คนรักธรรมชาติประทับใจ

1. น้ำตกแม่ยะ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ด้วยความสูงกว่า 260 เมตร พร้อมกับสายน้ำที่ไหลลดหลั่นลงมาถึง 30 ชั้น ทำให้ที่นี่ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย

2. น้ำตกคลองลาน อุทยานแห่งชาติคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร

น้ำตกขนาดใหญ่ ไหลลงมาจากหน้าผาสูงกว่า 100 เมตร เป็นลำธารที่ไหลเป็นสายยาวเหยียดเหมือนคลอง และที่สำคัญมีน้ำให้ลงเล่นตลอดทั้งปี 

3. น้ำตกเต่าดำ อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า จังหวัดกำแพงเพชร

ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำตลอดปี ใครที่ได้มาเห็นน้ำตกเต่าดำ เป็นต้องประทับใจกับม่านน้ำตกอลังการสวยงาม ไหลเป็นทางยาว และทิ้งดิ่งโจนทะยานแผ่สยายสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง 

4. น้ำตกกรุงชิง อุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช

ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่มาจากคลองกรุงชิง และไหลตัดผ่านหุบผาหินแกรนิตตามความลาดเอียงของภูเขา ทำให้กลายเป็นชั้นน้ำตกที่สวยงดงาม

5. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี

น้ำตกชื่อดังที่ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ริมทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ทั่วบริเวณร่มรื่นด้วยพรรณไม้ป่านานาชนิด และยังมีเส้นทางเดินสำหรับขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้น

6. น้ำตกเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี

ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ แต่ละชั้นมีลักษณะเป็นอ่างสามารถเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอราวัณ ผ่านป่าดิบเขา จุดชมวิวและป่าผลัดใบที่สวยงาม นักท่องเที่ยวจะได้รับความเพลิดเพลินในการชื่นชมธรรมชาติอีกด้วย

7. น้ำตกหมันแดง อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ท่ามกลางป่าดงดิบ ช่วงที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวน้ำตกหมันแดง จะอยู่ในช่วงประมาณเดือนสิงหาคม เพราะนอกจากจะได้ชื่นชมความสวยงามของสายธารน้ำตกแล้ว ยังเป็นช่วงที่ “ดอกลิ้มมังกรสีชมพู” เบ่งบานอีกด้วย

8. น้ำตกห้วยหลวง อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จังหวัดอุบลราชธานี

ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูจองนายอย เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุด สูงที่สุดและงดงามที่สุดของภาคอีสานตอนล่าง โดยช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวอยู่ระหว่างเดือนกันยายน-กุมภาพันธ์ ของทุกปี

9. น้ำตกแม่สุรินทร์ อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

เป็นน้ำตกที่สูงที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย น้ำตกสายนี้มีแม่น้ำสุรินทร์เป็นแหล่งต้นน้ำ และมีน้ำไหลตลอดทั้งปี 

10. น้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

น้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ น้ำไหลแรงมาก ยิ่งในช่วงหน้าฝนน้ำจะเป็นสีน้ำตาล ดูคล้ายกับสายน้ำไหลลงสู่หุบเขาลึก จึงได้ชื่อว่า น้ำตกเหวนรก 

ไม่น่าเชื่อเลยว่าอุทยานแห่งชาติจะเต็มไปเสน่ห์และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าค้นหา ซึ่งในแต่ละช่วงฤดูกาลก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป ใครที่เป็นขาเที่ยว เห็นทีต้องจัดสักทริปแล้ว ^ ^

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง