สังคมออนไลน์ภาคกลาง… รองเลขาฯพระราชวัง ประธานพิธีบวงสรวงเทพยดา ครูอาจารย์ โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ

รองเลขาธิการพระราชวัง ประธานพิธีบวงสรวงเทพยดา ครูอาจารย์ โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พบกันเป็นประจำทุกวันเสาร์ กับ “ข่าวสังคมออนไลน์ภาคกลาง” นำเสนอข่าวสารรอบตัว รวมทั้งกิจกรรมตามแต่ละพื้นที่ต่างๆ อีกมากมาย เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ทุกเหตุการณ์………..

รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานในพิธีบวงสรวงเทพยดา ครูอาจารย์และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

วันที่ 2 ตุลาคม 2566 ที่ อาคารเรียนรู้เรื่องโขน ตำบลเกาะเกิด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา​ มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดพิธีบวงสรวงเทพยดาครูอาจารย์ และเจริญพระพุทธมนต์ถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ โดยมี พันโท สมชาย กาญจนมณี รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานในพิธี

สำหรับอาคารเรียนรู้เรื่องโขน เป็นสถานที่จัดสร้างฉากโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอน กุมภกรรณทดน้ำ ซึ่งจะจัดแสดงขึ้นระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2566 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เนื่องในปีมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมพรรษา 71 พรรษา และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เจริญพระชนมพรรษา 91 พรรษา อีกทั้ง เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวของศิลปะการแสดงโขนมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตลอดจนจัดแสดงผลงานสร้างสรรค์ศิลปะที่เกี่ยวเนื่องกับโขน และสถานที่เก็บฉาก อุปกรณ์ประกอบฉากที่สำคัญและยิ่งใหญ่จำนวนมาก ซึ่งเคยจัดแสดงในตอนต่างๆ โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมเรื่องราวความเป็นมาของโขน ระหว่างวันพุธ ถึงวันอาทิตย์ เวลา 9 นาฬิกา ถึง 16 นาฬิกา

ระยะเวลา กว่า 20 ปี ที่มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จัดการแสดงโขนเพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม ให้ประชาชนชาวไทยได้ชื่นชมความงดงามศิลปะของไทย ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงส่งเสริม และทรงสนับสนุนการแสดงโขน ศิลปะอันทรงคุณค่าของชาติให้สืบทอดสืบไป (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

ผู้ว่าอยุธยา “นิวัฒน์” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำน้อย หลัง สทนช แจ้งการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา 1,000 ลบ. ม / วินาที ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ติดตามข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

วันที่ 2 ตุลาคม 2566 นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.อ.ภัทราวุธ ทิพโกมุท รอง ผอ.รมน.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายกฤษณ์ แก้วทองหลาง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายวันชัย ปังพูนทรัพย์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำน้อย ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา ที่บริเวณบ้าน นางสำรวย แต่งทรง โดยบ้านหลังดังกล่าวจะเป็นจุดต่ำสุดจุดแรกที่ถูกน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วม มี นางอมรรัตน์ กรึงไกร นายอำเภอเสนา ให้การต้อนรับและนำลงพื้นที่ สำหรับสถานการณ์น้ำ ณ วันที่ 2 ตุลาคม เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำลงสู่ท้ายน้ำอยู่ที่ 1,049 ลบ.ม ต่อวินาที และในช่วงค่ำจะเพิ่มการระบายน้ำ 1,200 ลบ.ม ต่อวินาที โดยจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ ตำบลหัวเวียง ตำบลบ้านกระทุ่ม อำเภอเสนา ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำสุด และจะเป็นพื้นที่ประจำเมื่อมวลน้ำปริมาณมากไหลผ่านแม่น้ำน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา น้ำจะล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน

นายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาของกรมชลประทาน เริ่มส่งผลกระทบกับพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยทางจังหวัดได้สั่งการให้ทุกอำเภอ ทุกหน่วยงาน ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เกาะเมือง และโบราณสถาณที่สำคัญ เพื่อเตรียมความพร้อมและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนรับรู้รับทราบไม่ให้เกิดผลกระทบในวงกว้าง (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

อุทัยธานี จัดพิธีวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่อาคารสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดอุทัยธานี อำเภอเมืองอุทัยธานี นายอลงกต วรกี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี เป็นประธานในพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 วันที่ 1 ตุลาคม พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

โดยพิธีเริ่มจาก รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี วางพวงมาลาถวายราชสักการะ จุดธูป เทียน เครื่องทองน้อย หลังจากนั้น ได้นำกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติฯ เพื่อแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแด่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ซึ่งพระองค์ทรงเป็นนักดาราศาสตร์ไทยผู้ยิ่งใหญ่ทรงการคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงได้อย่างแม่นยำ ล่วงหน้าถึง 2 ปี พระอัจฉริยภาพของพระองค์เป็นที่เลื่องลือ จนปวงชนชาวไทยถวายพระราชสมัญญานามทรงเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย“ ทั้งนี้ พระองค์ทรงดำรงสิริราชสมบัติเป็นเวลา 18 ปี จึงเสด็จสวรรคตในวันที่ 1 ตุลาคม 2411 เป็นระยะเวลา 155 ปี มาแล้ว (ชนม์สวัสดิ์ ทองโพธิ์งาม / อุทัยธานี)

เปิดแหล่งเรียนรู้เมืองละโว้ ภายใต้แนวคิด “ถนนใหญ่ถิ่นไทยพวน หอมหวนกลิ่นดินสอพอง”

นายปรัชญา เปปะตัง รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานเปิดโครงการแหล่งเรียนรู้เมืองแห่งดินสอพอง ภายใต้แนวคิด “ถนนใหญ่ถิ่นไทยพวน หอมหวนกลิ่นดินสอพอง” โดยมี นางสุวจี ศิริปัญโญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายอำนวย จั่นเงิน ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดลพบุรี หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการสภาวัฒนธรรม เครือข่ายชาติพันธุ์ในลพบุรี ชุมชนไทยพวนบ้านถนนใหญ่และประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม โดยมีพระครูโสภณวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดถนนใหญ่เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ที่ลานเอนกประสงค์วัดถนนใหญ่ ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

สิงห์บุรี จัดกิจกรรม เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน

ช่วงเช้าของวันที่ 27 กันยายน 2566 ที่ศูนย์ราชการจังหวัดสิงห์บุรีนายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี นำคณะผู้บริหาร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสิงห์บุรี หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด และข้าราชการ ร่วมกิจกรรมเคารพธงชาติ เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย 28 กันยายน ประจำปี 2566

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2559 เห็นชอบกำหนดให้วันที่ 28 กันยายนของทุกปี เป็นวันพระราชทานธงชาติไทย (Thai National Flag Day) รวมทั้งกำหนดให้มีการชักธงและประดับธงชาติไทยในวันดังกล่าว เพื่อเป็นการสร้างความภาคภูมิใจของคนในชาติ และเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระราชทานธงไตรรงค์ เป็นธงชาติไทย (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

ชัยนาท จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศรีมงคล ตำบลหาดอาษา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท นางสาวชไมพร อำไพจิตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยมี พระราชวชิรกิจจาทร เจ้าคณะจังหวัดชัยนาท เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ วรวิหาร เป็นประธานสงฆ์ พร้อมด้วยพระครูวิธูรชัยกิจ เจ้าคณะอำเภอสรรพยา เจ้าอาวาสวัดตะกู, พระมหานิพนธ์ นาควโร เจ้าคณะตำบลสรรพยา เลขานุการเจ้าคณะอำเภอสรรพยา, พระครูวิชัยนันทกิจ เจ้าคณะตำบลหาดอาษา เจ้าอาวาสวัดนมโฑ, พระอธิการมนัส ปสันนจิตโต เจ้าอาวาสวัดศรีมงคล คณะสงฆ์อำเภอสรรพยา หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ และประชาชน ร่วมพิธี ฯ

ทั้งนี้จังหวัดชัยนาท ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัดชัยนาท ได้กำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประจำปีพุทธศักราช 2566 จำนวน 12 ครั้ง เพื่อบำเพ็ญกุศลถวายพระราชกุศล และแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งเป็นการเสริมสิริมงคลต่อตนเอง ด้วยการน้อมนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปเป็นกรอบแนวคิดในการดำรงชีวิตอย่างมีสติ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤตการณ์ต่างๆ โดยสับเปลี่ยนจัดพิธีที่วัด สำคัญของแต่ละอำเภอ หมุนเวียนไปจนครบทั้ง 8 อำเภอของหวัดชัยนาท โดยในครั้งต่อไปจะจัดพิธีขึ้นในวันที่ 28 ตุลาคม 2566 เวลา 15.00 น. ณ วัดหนองม่วง อำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท (สุรพล บำรุงศรี – วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)

อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคง เป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตร และมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนผู้สูงอายุที่สำเร็จการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อาคารเอนกประสงค์สำนักงานเทศบาลตำบลห้วยงู ตำบลห้วยงู อำเภอหันคาจังหวัดชัยนาท นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบวุฒิบัตรและมอบทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนผู้สูงอายุที่สำเร็จการศึกษาประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และกล่าวแสดงความยินดีกับนักเรียนผู้สูงอายุที่สำเร็จการศึกษา พร้อมมอบป้ายศูนย์บริการดูแลผู้สูงอายุรายวันตำบลห้วยงู ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ โดยมีนายนายศรณ์จักร์ชัย ชูวาพิทักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยนาท, นางสาวดรุณี มนัสวานิช พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท, นายอดิศร เกิดโตนายอำเภอหันคา พร้อมด้วยนางนภัสกรณ์ ธูปแก้ว ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีจังหวัดชัยนาท, นางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ สถาบันอนุสรีรวมใจให้กัน, ดร.ปรีชา ศิริแสงอารำพี ที่ปรึกษาจังหวัดสมุทรสาคร,นายมณฑล ตั้งทวี นายกเทศมนตรีตำบลตลุก และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดชัยนาท ร่วมให้การต้อนรับ

นางสาวอรวรรณ เศรษฐพงษ์ นายกเทศมนตรีตำบลห้วยงู กล่าวว่า โรงเรียนสร้างสุขผู้สูงอายุตำบลห้วยงู ได้จัดตั้งขึ้นภายใต้ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุตำบลห้วยงู โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการจัดกิจกรรมของชมรมผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงอายุ ได้มีสถานที่ในการจัดกิจกรรมร่วมกัน พร้อมส่งเสริมด้านอาชีพและการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นของผู้สูงอายุในชุมชนให้เป็นที่ประจักษ์และยอมรับสืบทอดต่อไป ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับการพัฒนาด้านสุขภาพ กาย จิตใจ อารมณ์ และสังคม อีกทั้งเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานของอาสาสมัครดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน เสริมสร้างการพัฒนาตนเองและการเรียนรู้ของผู้สูงอายุ และแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน

เทศบาลตำบลห้วยงู ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท พร้อมทั้ง 9 เครือข่ายชุมชนตำบลห้วยงู ดำเนินการจัดวิพากย์หลักสูตร โดยมีโครงสร้างของหลักสูตรประกอบด้วยเนื้อหาการเรียนการสอน 7 รายวิชา ได้แก่ วิชาพระพุทธศาสนา วิชากฎหมายทั่วไป วิชาส่งเสริมการดูแลสุขภาพ วิชานันทนาการ วิชาการ วิชาส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่น วิชาส่งเสริมการฝึกอาชีพโดยแบ่งการเรียนการสอนออกเป็น 4 ระดับ ประกอบด้วย ระดับชั้นตรี คือ นักเรียนผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเองได้, ระดับชั้นโท คือ นักเรียนผู้สูงอายุสามารถดูแลตนเอง ดูแลคนในครอบครัว และดูแลคนรอบตัวได้ ระดับชั้นเอก คือ นักเรียนผู้สูงอายุที่สามารถดูแลตนเอง ดูคนในครอบครัว ดูแลคนรอบตัว และยังบำเพ็ญตนเพื่อประโยชน์ส่วนรวมในสังคมได้ และระดับผู้นำการเปลี่ยนแปลง คือ สามารถพึ่งพาตนเอง ครอบครัวสามารถพึ่งพาได้ และสามารถร่วมกิจกรรม และใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ (สุรพล บำรุงศรี – วรชล ฟักขาว / ชัยนาท)

ปทุมธานี ร่วมประชุมรับนโยบาย รมต.มหาดไทย ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่

วันที่ 2 ตุลาคม 2566 เวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมข้าวหอมปทุม 4 ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี นายอดิเทพ กมลเวชช์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดปทุมธานี ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยและการให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ ผ่านระบบประชุมทางไกล Zoom Meeting จากห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร

โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมพร้อมด้วย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ทุกจังหวัดเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ พร้อมให้นโยบายการจัดการสาธารณภัยในพื้นที่ แก่ข้าราชการ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง (แสงกฤช – ประสิทธิ์ จิตสว่าง / ปทุมธานี)

รองผู้ว่าอยุธยา “ไพรัตน์” แสดงความยินดีกับ “ดูโฮม” เปิดสาขาที่ 23 และฉลองครบรอบ 40 ปี รองรับลูกค้าชุมชนย่านนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ สร้างความเจริญเติบโตให้กับชุมชน ทั้งการจ้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ในพื้นที่

วันที่ 30 กันยายน 2566 นายไพรัตน์ เพชรยวน รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในพิธีเปิด DOHOME สาขาที่ 23 ณ ดูโฮม สาขาอยุธยา ถนนโรจนะ ตำบลคานหาม อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมร่วมแสดงความยินดีในโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปี ศูนย์ค้าปลีก-ค้าส่ง วัสดุก่อสร้าง ซ่อมแซม ตกแต่งบ้าน ระดับประเทศ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘Better Together ครบ ถูก ดี…ตลอดไป’ โดย นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับ ซึ่งงานนี้ได้รับเกียรติจาก นายกิตติ เชาวน์ดี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น ผู้ประกอบการค้า และสื่อมวลชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมพิธีเปิด

นายไพรัตน์ เพชรยวน ได้กล่าวแสดงความยินดีกับ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) ที่ได้ดำเนินธุรกิจมาถึงปีที่ 40 ดูโฮม นับเป็นธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง สินค้ากลุ่มก่อสร้าง ซ่อมแซม และตกแต่งบ้าน ที่อยู่คู่ประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งในปัจจุบันได้มีการก่อตั้ง ดูโฮม สาขาอยุธยา เป็นสาขาที่ 23 นับเป็นความโชคดีของพี่น้องชาวอยุธยาที่ดูโฮม พร้อมช่วยผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของจังหวัดและในประเทศ สร้างความเจริญเติบโตให้กับชุมชน ทั้งการจ้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ นอกจากนี้ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของโครงการภาครัฐ ด้วยการสนับสนุนสถานที่จัดแสดง และจำหน่ายสินค้า และกิจกรรมเพื่อสังคมอีกด้วย

ด้าน นายอดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา กล่าวว่า บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เดินหน้าขยายธุรกิจตอบโจทย์ลูกค้าทั่วประเทศ จัดงาน Grand Opening ฉลองเปิด ดูโฮม สาขาอยุธยา สาขาที่ 23 เพื่อเข้าถึงลูกค้าชุมชนย่านนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ พร้อมรองรับกำลังซื้อวัสดุก่อสร้างหนุนการคมนาคมที่เชื่อมต่อเข้าสู่กรุงเทพฯ เติมเต็มการเติบโตทางเศรษฐกิจภาคการผลิตและอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง (เผอิญ – วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

“เปิด Ayutthaya City Park Auto Show 2023” มหกรรมยานยนต์ครบวงจร

ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค จัดงานใหญ่ไฮไลท์แห่งปี กับมหกรรมยานยนต์ครบวงจร พบความหรูหรามีระดับกับ Luxury Car รถไฟฟ้าสปอร์ตซีดาน และรถตอบโจทย์ทุกการใช้งาน พร้อมอัดแน่นโปรโมชั่นพิเศษ และกิจกรรมบันเทิงมากมาย ในงาน “Ayutthaya City Park Grand Vaganza Auto Show 2023” 30 ก.ย. – 8 ต.ค. นี้

วันที่ 30 กันยายน 2566 บริเวณ Event Park ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค คุณปภาวี ด่านชัยวิโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย ดร.สมพล รัชตพิมลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค ร่วมเปิดงาน “Ayutthaya City Park Grand Vaganza Auto Show 2023” อลังการยนตรกรรมที่สุดแห่งปี โดยมี คุณบงกช แจ่มทวี ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, คุณมานัส ทรัพย์มีชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, คุณธนกฤต กิตติธรรมกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรชัย เอมอักษร คณบดีคณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ, คุณสุภาภรณ์ ศรีโภชน์สมบูรณ์ (มาดามพอลล่า), คุณจิรัฎฐ์ จิรรัตน์นันท์ ผู้บริหารลาลูแบร์, คุณนิชนันท์ คงศรี Influencer Marketing ผู้บริหารและผู้แทนจากค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ประดับยนต์ สินเชื่อและแขกผู้มีเกียรติ ร่วมพิธีเปิดงาน

คุณปภาวี ด่านชัยวิโรจน์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค กล่าวถึงการจัดงาน “Ayutthaya City Park Auto Show” ว่าเป็นงานไฮไลท์ที่ทางศูนย์การค้าฯ จัดอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยในปีนี้มาในคอนเซ็ปต์ “Ayutthaya City Park Grand Vaganza Auto Show 2023” อลังการยนตรกรรมที่สุดแห่งปี เพราะมีความยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้นทุกมิติ ทั้งในส่วนของพื้นที่จัดงานจากเดิม 3,000 ตร.ม. เพิ่มขึ้นเป็น 10,000 ตร.ม และจัดในพื้นที่ปรับปรุงโฉมใหม่ ได้แก่ แกรนด์ฮอลล์ ชั้น 1 และพื้นที่ภายนอก Event Park พร้อมเสริมทัพความแกรนด์กับ คุณลลิภัสร์ วราวิโรจน์พล มิสแกรนด์พระนครศรีอยุธยา 2023 มาร่วมถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของงานนี้ด้วยเช่นกัน (วุฒิภัทร ไทยสม / อยุธยา)

มอบของที่ระลึกครบรอบสถาปนาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 63 ปี ผู้ใช้ไฟรายใหญ่

นายจรูญศักดิ์ นาคคล้าม ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบำรุงรักษา การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายเฉลียว โก่งเกษร ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดลพบุรี นายณรงค์ศักดิ์ สิงห์สะอาด ผู้อำนวยการกองบริการลูกค้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคเหนือ) จังหวัดลพบุรี ร่วมมอบของที่ระลึก ให้แก่ บริษัท เอ็นเอ็มบี–มินีแบ ไทย จำกัด (โรงงานลพบุรี) ในโอกาสวันสถาปนาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ครบรอบ 63 ปี โดยมีนางเรวดี สุนทวัฒโรดม หัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลและบริหาร รับมอบ (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

จัดงาน 103 ปี มหาวิทยาลัยเทพสตรี สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (103 rd Anniversary “Thepsatri towards Sustainable Development”)

ผศ.ดร.กันยา บาร์นท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี เป็นประธานพิธีเปิดงาน 103 ปี เทพสตรี สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน (103rd Anniversary “Thepsatri towards Sustainable Development”) เพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 103 ปี แห่งการสถาปนามหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี อีกทั้งยังเพื่อเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ ผลการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยในปี 2566 เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แสดงความคิดเห็นและความต้องการของประชาชนในชุมชน และเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาการให้บริการวิชาการของมหาวิทยาลัยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมีนางเพชรรัตน์ เลิศรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี, ผศ.พรพิมล วงศ์สุข รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่, พันเอก วรโชติ กาญจนโรจน์ รองเสนาธิการ มณฑลทหารบกที่ 13, นางอรพิน จิระพันธุ์วาณิช นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลพบุรี, ผู้บริหารสถานศึกษา คุณครู และนักเรียน จากจังหวัดลพบุรี สิงห์บุรี สระบุรี, ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมถึงนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยเข้าร่วมในพิธีเปิด ณ ห้องประชุมพระนารายณ์ ชั้น 4 อาคารรัตนเทพสตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี

นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายพิเศษมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรีสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน โดย ผศ.ดร.กันยา บาร์นท์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี การบรรยายพิเศษระบบออนไลน์ การพัฒนามหาวิทยาลัยให้สอดคล้องกับนโยบายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ,การสัมมนา “ถอดบทเรียนสู่การพัฒนาต่อยอดต้นแบบโรงเรียนขนาดเล็ก 3 บุรี” รวมทั้งกิจกรรมการพัฒนาต่อยอดและพัฒนาการศึกษาของมหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี ที่เอื้อต่อสถาบันการศึกษาในจังหวัดลพบุรี สระบุรี และสิงห์บุรี (กฤษณพงศ์ อยู่รอด – ธนพล อาภรณ์พงษ์ / ลพบุรี)

สระบุรี จัดกิจกรรม รวมพลคนสระบุรี ปั้น EM ball

วันที่ 29 กันยายน 2566 ที่หอประชุมศูนย์ราชการจังหวัดสระบุรี ตำบลตะกุด อำเภอเมืองสระบุรี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี โดย นายสถาพร โพธิสาขา ผู้อำนวยการส่วนยุทธศาสตร์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระบุรี นายพัฒน์พงษ์ บุญเลิศ วิทยากร เกษตรธรรมชาติละสิ่งแวดล้อม (คิวเซ)แก่งคอย ระดมกำลังเจ้าหน้าที่จากส่วนราชการต่าง ๆ ได้จัดกิจกรรม รวมพลคนสระบุรี ปั้น EM ball และน้ำหมักชีวภาพเพื่อเป็นการฟื้นฟูคุณภาพน้ำและบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยร่วมกับหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในจังหวัดสระบุรีและหน่วยงานของภาครัฐในเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หมู่บ้านและประชาชนในพื้นที่ ได้ทำจุลินทรีย์ก้อน EM ball เพื่อมอบให้กับอำเภอและชุมชนที่ยังประสบปัญหาน้ำท่วม น้ำขังเป็นเวลานาน และน้ำเริ่มเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น เป็นการฟื้นฟูระบบนิเวศ และเป็นการสร้างเครือข่ายการมีส่วนร่วมให้กับชุมชนและประชาชนทั่วไป (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)

สิงห์บุรี สมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก ออกรับฟังความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวรักษ์โลก BCG Model ของรัฐบาล

สมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก โดย น.ท.ดร.ภณ ทัพพินท์กร นายกสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลกและ นายสานิตย์ จิตต์นุพงษ์ ประธานที่ปรึกษาสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลก ตรวจเยี่ยมโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model ของรัฐบาล ณ แปลงนานางออกมสิน กุลรัตน์ หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี สมาคมพัฒนาเศรษฐกิจเกษตรรักษ์โลกได้พบปะรับฟังความคิดเห็นของเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่ร่วมโครงการข้าวรักษ์โลก BCG Model และแนะนำช่วยแก้ปัญหาให้เกษตรกร ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ตั้งแต่ปลูกจนถึงการขายข้าว ทำนาแบบ เลิกใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมี ยาฆ่าแมลง ทำให้ได้ข้าวที่ดีมีคุณภาพ ปลอดสารพิษ ดีต่อสุขภาพ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมพร้อมแนะนำให้ใช้จุลินทรีย์และสาหร่ายแกมเขียวมาผสมผสานในการเพาะปลูกเพื่อลดต้นทุนการผลิต

อีกทั้งนำองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการน้ำแบบเปียกสลับแห้ง มาถ่ายทอดให้กับชาวนา ซึ่งการทำนาแบบเปียกสลับแห้งนั้นจะช่วยลดก๊าซมีเทนในดินที่จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ที่เป็นการตระหนักถึงความสำคัญของการรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อลดภาวะโลกร้อน เน้นย้ำการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสร้างคาร์บอนเครดิตให้ชาวนานำไปสร้างรายได้เสริม แต่ชาวนายังขาดความรู้จากการใช้เทคโนโลยีเข้าช่วย จึงต้องเสนอแนะนำนักวิชาการด้านการเกษตรมาให้คำปรึกษาการเพาะปลูก ข้าวรักษ์โลก BCG Model ปลอดสารพิษเพื่อสุขภาพของตัวเองและลูกหลาน ที่จะทำนารักษ์โลกได้อย่างยั่งยืนสืบไป (อำนาจ สุขเย็น / สิงห์บุรี)

นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด สั่งการเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมป้องกันสถานการณ์น้ำ

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2566 ณ ห้องประชุม สำนักงานเทศบาลนครปากเกร็ด นายวิชัย บรรดาศักดิ์ นายกเทศมนตรีนครปากเกร็ด เป็นประธานในการประชุมเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังภายในเทศบาลนครปากเกร็ด พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง

เนื่องจาก กรมชลประทาน แจ้งว่า อิทธิพลของร่องมรสุม ทำให้เกิดฝนตกหนักสะสมบริเวณภาคเหนือ ส่งผลให้น้ำในลำน้ำเพิ่มมากขึ้นและมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำปริมาณมาก และในช่วงวันที่ 3-6 ตุลาคม 2566 จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ จึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราระหว่าง 1,000 – 1,400 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะส่งผลให้มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันอีกประมาณ 1.00 – 1.50 เมตร อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนริมน้ำในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

โดยนายกเทศมนตรี มอบหมายเจ้าหน้าที่สำนักช่าง สำนักปลัดเทศบาล ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเฝ้าระวังพื้นที่บริเวณริมน้ำเจ้าพระยาที่เป็นจุดเสี่ยงในเขตเทศบาล อาทิ วัดบางพูดนอก วัดโพธิ์บ้านอ้อย วัดหงส์ทอง วัดบางพัง วัดสลักเหนือ บริเวณซอยปากด่าน และท่าน้ำปากเกร็ด

นายสุทร บุญสิริชูโต ปลัดเทศบาลนครปากเกร็ด กล่าวว่าเทศบาลนครปากเกร็ดได้นำนวัตกรรมเรื่อง Incident Command System (ICS) เข้ามาปรับใช้ในการบริหารจัดการในการป้องกันสถานการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ด้วย โดยบูรณาการข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดเทศบาลนครปากเกร็ด จำนวน 639 กล้อง ในพื้นที่เขตเทศบาล ซึ่งมีพื้นที่น้ำท่วมขังบริเวณชั้นในที่เป็นพื้นที่จุดเสี่ยงจากปริมาณน้ำฝนต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ เมืองทองธานี หน้าสภ.ปากเกร็ด ถนนแจ้งวัฒนะ และหมู่บ้านประชาชื่น

สำนักช่าง รายงานการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขน้ำท่วมขัง โดยตรวจสอบสถานีสูบน้ำ บ่อสูบน้ำ ประตูระบาย และเครื่องสูบน้ำ ให้สามารถใช้การได้ รวมถึงลอกท่อความยาว 20,360 เมตร ใน 7 เส้นทางหลัก ครอบคลุมถนนสุขาประชาสรรค์ 2 แจ้งวัฒนะ และศรีสมาน ฝ่ายป้องกันฯ สำนักปลัดเทศบาล รายงานการเตรียมกระสอบทรายเพื่อใช้ป้องกันน้ำไว้แล้วจำนวน 20,000 กระสอบ กองสาธารณสุขฯ รายงานการจัดเตรียมชุดเวชภัณฑ์ ที่เกี่ยวกับโรคที่เกิดจากน้ำ ไว้เพื่อมอบให้ประชาชนในพื้นที่

ทั้งนี้ ประชาชนในเขตเทศบาลนครปากเกร็ด หากได้รับความเดือดร้อน ประสบปัญหาจากน้ำท่วมขัง สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ โทร. 0 2538 7788 หรือโทรสายด่วน 1132 ตลอด 24 ชั่วโมง (สมคิด – สมนึก ลือประดิษฐ / นนทบุรี)

สระบุรี จัดกิจกรรมปลูกทานตะวัน@เลียงผา ส่งเสริมการท่องเที่ยวธรรมชาติพร้อมบานต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

วันที่ 3 ตุลาคม 2566 นายกิตติศักดิ์ ธีระวัฒนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดกิจกรรมปลูกทานตะวัน@เลียงผา เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวธรรมชาติและการท่องเที่ยวในชุมชน ณ บ้านเลียงผา ป่าชุมชนเขาพระพุทธบาทน้อย–เขาขมิ้น หมู่ที่ 4 บ้านโป่งค่าป่าไม้แดง ตำบลท่าตูม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี

ศูนย์ป่าชุมชนเขาพระพุทธบาทน้อย มีเนื้อที่ภูเขา 2,186 ไร่ ประกอบด้วย ป่าชุมชนรายรอบภูเขา จำนวน 4 ป่า ประกอบด้วยป่าชุมชนบ้านพระพุทธบาทน้อย ตำบลสองคอน ป่าชุมชนบ้านบ่อโศรก ตำบลสองคอน ป่าชุมชนบ้านทุ่งแซง ตำบลท่าตูม ป่าชุมชนบ้านโป่งค่าป่าไม้แดง ตำบลท่าตูม มีป่าชุมชน 2 แปลง คือ ป่าชุมชนบ้านโป่งค่าป่าไม้แดง ป่าชุมชนเขาขมิ้น มีทรัพยากรธรรมชาติที่โดดเด่น คือ เลียงผา สัตว์ป่าสงวนในอนุสัญญาไชเตส นกจู๋เต้นเขาปูนพันธุ์สระบุรี เป็นนกเฉพาะถิ่น สถานะใกล้สูญพันธุ์ แมงกระดานถ้ำโมงนาที สถานะ เป็นสัตว์ชนิดใหม่ของโลก ต้นปรงสระบุรี อยู่ในบัญชีไชเตส (บัญชี 2) สถานะใกล้สูญพันธุ์ ถ้ำหินงอกหินย้อยสวยงาม ถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า ถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณ มีพืชและสัตว์ในระบบนิเวศน์เขาหินปูนที่สมบูรณ์อีกมากมาย ที่ผ่านมามีการจัดกิจกรรมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่ดำเนินการ ได้แก่ กิจกรรมทำแนวกันไฟ และกิจกรรมดนตรีกล่อมไพรด้วยใจรักษ์เลียงผา กิจกรรมทำฝ่ายชะลอน้ำ กิจกรรมปลูกต้นไม้/กิจกรรมอนุรักษ์พันธุกรรมพืช กิจกรรมอบรมเยาวชน

สำหรับรางวัลที่ได้รับประกอบด้วย รางวัลลูกโลกสีเขียวทั้งประเภทชุมชน และประเภท 5 ปี แห่งความยั่งยืน รางวัลเชิดชูเกียรติขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือไอยูซีเอ็นรางวัล ทสม. ประเภทดีเด่นทั้งประเภทเครือข่ายและประเภทบุคคล และรางวัลที่ชุมชนภาคภูมิใจที่สุด คือ รางวัลทรัพยากรธรรมชาติสมบูรณ์ขึ้นด้วยความหวงแหนของชุมชนและเครือข่ายหลังจากการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติประสมผลสำเร็จ ชุมชนต้องมีรายได้จากการอนุรักษ์ ดังนั้น ชุมชนจึงได้ร่วมกันปลูกทานตะวันเพื่อการท่องเที่ยวชุมชน เพื่อให้ชุมชนมีรายได้ พร้อมบานต้อนรับนักท่องเที่ยวในเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่นี้ สำหรับใครที่ยังไม่มีแพลนที่จะเดินทางไปที่ไหน ขอเชิญชวนทุกคนไปท่องเที่ยวเยี่ยมชมทุ่งทานตะวันบาน ณ บ้านเลียงผา (สมนึก สุขีรัตน์ / สระบุรี)

ประชุมคณะกรรมการสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนาเทศบาลเมืองตาคลี นครสวรรค์

วันที่ 4 ตุลาคม 2566 เวลา 13.00 น. เทศบาลเมืองตาคลีจัดประชุมคณะกรรมการสนับสนุนการจัดทำแผนพัฒนาเทศบาลเมืองตาคลี เพื่อพิจารณาจัดทำร่างแผนดำเนินงาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 และแผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ. 2566 – 2570) เพิ่มเติม และเปลี่ยนแปลง ครั้งที่ 2/2566 ของเทศบาลเมืองตาคลี โดยมี นางสาวประโลมจิต ทิพย์ศรี รองปลัดเทศบาลเมืองตาคลี รักษาราชการปลัดเทศบลาลเมืองตาคลี เป็นประธานการประชุม ร่วมกับผู้แทนภาคประชาชน และหัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งเป็นคณะกรรมการ ณ ห้องประชุมทรัพย์วรณิช ชั้น 3 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ สำนักงานเทศบาลเมืองตาคลี (กิตติ์ธเนศ พัวพรพงษ์ / นครสวรรค์)