แก้บน ศาลแม่นางไม้มณฑาทิพย์ วัดบางกุ้ง » อีจัน

กลับมาแก้บน องค์หญิงมณฑาทิพย์ หลังถูกหวยหลายงวดติด!

หลวงพ่อพุทธนิลมธี ใน โบสถ์ปรกโพธิ์ อันซีนไทยแลนด์ จ.สมุทรสงคราม ที่ หลายคนนิยมเดินทางไปกราบขอพร ใครจะรู้ ด้านหลังโบสถ์ยังมีอีก 1 จุดที่คอหวยแห่ไปกราบไหว้ ขอเลขเด็ดมาเสี่ยงดวง

ศาลแม่นางไม้มณฑาทิพย์ หรือ องค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า) ตั้งอยู่หลังโบสถ์ปรกโพธิ์ ชาวบ้านมีความเชื่อ ของานได้งาน ขอเลขได้เลข ยิ่งใกล้วันหวยออกแบบนี้ ชาวบ้านต่างแห่กันไปกราบไหว้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ เจอกับ นางวาสนา อายุ 49 ปี นำพานเครื่องสำอางแก้บนที่ศาล โดยเจ้าตัวบอกว่า ก่อนหน้าได้มากราบขอพร ขอโชคลาภเสี่ยงเซียมซีได้เลขมาก็เอาไปลองเสียงโชค ปรากฏว่าถูกจริงๆ ได้มาหลายงวด จึงเอาเครื่องสำอางมาแก้บนมาถวาย

ซึ่งรอบนี้นางวาสนาก็ไม่พลาดที่จะเสี่ยงเซียมซี เพื่อนำเลขที่ได้ไปเสี่ยงโชคอีกครั้ง ได้มา 2 เลข คือ 8 และ 5

ก็ไม่รู้ว่างวดนี้เธอจะมีโชคลาภจากการเสี่ยงครั้งนี้หรือไม่ ต้องมาลุ้นกันวันพรุ่งนี้^^

สำหรับประวัติขององค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า) จอมขมังเวทย์ผู้ปราบพม่า นางไม้เจ้าจอม วัดบางกุ้ง ผู้รักชาติยิ่งชีพ

เมื่อปี พ.ศ. 2531 บริเวณวัดเป็นป่ารกร้าง พระวินัยธร องอาจอาริโยได้เดินธุดงค์มาที่ วัดบางกุ้ง ปักกลดปฏิบัติธรรมอยู่ข้างอุโบสถหลวงพ่อนิลมณี หรืออุโบสถปรกโพธิ์ ซึ่งเงียบสงบเหมาะแก่การวิปัสสนากัมมัฏฐาน ท่านได้เดินสำรวจบริเวณวัด ทราบมาบ้างว่าวัดนี้เคยเป็นค่ายทหารจีนบางกุ้งสมัยกรุงธนบุรี เป็นราชธานีมาก่อน ยามดึกขณะเจริญกรรมฐานมักจะเกิดนิมิตเห็นผู้หญิงแต่งชุดไทยโบราณมากราบไหว้หลวงพ่อนิลมณีหน้าอุโบสถปรกโพธิ์เป็นประจำ ลักษณะผอมสูง ผมยาว ใบหน้างาม แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร

ต่อมา เสาคานที่หน้าอุโบสถหล่นตกลงมาพิงอยู่ข้างๆ อุโบสถ คืนนั้น พระวินัยธรได้นิมิตเห็นผู้หญิงชุดไทยคนเดิมมาบอกให้นำไม้ท่อนนี้มาไว้ที่หลังอุโบสถแล้วให้สร้างศาลด้วย ท่านก็ทำตาม ให้ชาวบ้านช่วยกันตามคำขอร้อง พระวินัยธรนำไม้ท่อนมาแกะสลักเป็นรูปหน้าผู้หญิงไม่มีแขนขาวางไว้ภายในศาล ให้ชื่อว่า “ศาลนางไม้เจ้าจอม” ผู้คนให้ความเคารพนับถือกันมากเพราะมีความศักดิ์สิทธิ์ปรากฏแก่ผู้คนอยู่เสมอ

ภายหลัง พระวินัยธร พบหนังสือ “กฎแห่งกรรม” ของ ท.เลียงพิบูลย์ เข้าโดยบังเอิญ จึงได้อ่านเรื่องราวขององค์หญิงมณฑาทิพย์ (จันทร์เจ้า)

สมัยปลายกรุงศรีอยุธยา ช่วงระหว่างสมัยสมเด็จพระเจ้าอุทุมพร (ขุนหลวงหาวัด) กับสมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ (พ.ศ. 2291) องค์หญิงเป็นพระธิดาของกรมหลวงบวรวังใน บ้านเมืองเดือดร้อนมีการฉ้อราษฎร์บังหลวง ผู้ใดประจบสอพอ ผู้นั้นเป็นใหญ่ ผู้ครองแผ่นดินมั่วลุ่มหลงและเสพสุขในกามา ใครมีบุตรีต้องนำตัวมาถวาย ใครขัดขืนจะถูกประหารชีวิต เหลืออยู่ก็แต่กรมหลวงบวรวังในที่ไม่ทรงยอมข้องเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด ไม่คบค้าสมาคมกับใคร เมื่อพระธิดาเจริญพระชันษาเป็นสาวให้แต่งองค์เป็นชายพร้อมทั้งข้าทาสบริวารที่เป็นหญิง จัดให้ฝึกอาวุธเรียนศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว เช่น ฟันดาบ กระบี่กระบอง หมัดมวย ตำราพิชัยสงคราม

องค์หญิงทรงเชี่ยวชาญอาวุธตลอดจนเวทมนตร์คาถา ทรงมีความสามารถด้านวิชาอาคมยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน เมื่อกรุงศรีอยุธยาถูกพม่ายกกองทัพประชิดเมือง มีการเตรียมบ่าวไพรพร้อมพืชพันธุ์ธัญญาหาร อุปกรณ์ก่อสร้างอาวุธลงด้วยอาคมคุ้มกันเรือองค์หญิง ซึ่งแต่งกายเป็นชายเยี่ยงชาวบ้าน หนีออกจากกรุงตอนกลางคืน แต่บิดาไม่ได้มาด้วย ล่องน้ำมาเป็นระยะเวลา 3 วัน จึงสั่งให้พลพรรคเข้าโจมตีตอนดึก ไฟลุกโชติช่วงฆ่าทหารพม่าซึ่งกำลังหลับเพราะเมามายแทบหมดสิ้น ทหารพม่าที่ยังรอดได้ติดตามองค์หญิง แต่ต้องพ่ายเพราะเวทมนตร์พรางตา จนองค์หญิงหนีไปได้อย่างปลอดภัย

เมื่อคราวศึกบางกุ้ง องค์หญิงได้ทรงคุมกำลังเข้าช่วยรบกับพม่าจนได้รับชัยชนะ เมื่อสิ้นอายุขัย ดวงพระวิญญาณยังผูกพันกับวัดบางกุ้ง ยังคงวนเวียนอยู่ที่ศาลคอยแผ่บารมีให้ความช่วยเหลือผู้ทุกข์ร้อนที่มาขอพึ่งพา นับว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ยอมรับนับถือของคนทั่วไป ใครมีเรื่องทุกข์ร้อนมาบนบานในสิ่งที่ต้องการมักไม่ผิดหวัง และทางโชคลาก มักมีคนได้เลขไปเสี่ยงโชคแล้วสมหวังอยู่เสมอ

ขอบคุณข้อมูล: วิกิพีเดีย