เผยวินาทีเฉียดตาย กลับไทยลอตแรก 41 คน แม่โผสวมกอด ยอดดับ 21 ศพ (คลิป)

แรงงานไทยในอิสราเอล 15 คนถึงไทยแล้ว โผกอดญาติพี่น้องร่ำไห้กันระงม ก้มกราบเท้าพ่อที่มารอผูกข้อมือรับขวัญ เผยนาทีหนีตายถูกระดมยิงใส่นึกว่าจะไม่ได้เห็นหน้าครอบครัว ลั่นไม่ขอกลับไปอีกแล้ว สื่องง แจ้งกลับ 15 คน แต่มีเดินทางมา 41 คน “ปานปรีย์” ยอมรับ เป็นการเดินทางซื้อตั๋วกลับมาเอง ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตคนไทยเพิ่มเป็น 21 ศพ ผู้บาดเจ็บ 14 ราย ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่มเป็น 16 ราย ลงทะเบียนขอเดินทางกลับจำนวน 5,990 ราย ขณะที่แผนอพยพคนไทย เตรียมเครื่องการบินไทย-แอร์เอเชีย-นกแอร์ บินไปรับได้ภายใน 3 วัน

สถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลกับกองกำลังฮามาส ยังทวีความรุนแรง ทั้งสองฝ่ายเปิดฉากตอบโต้กันอย่างดุเดือด แต่ละฝ่ายมีผู้เสียชีวิตนับพันคน บาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งถูกจับเป็นตัวประกันอีกจำนวนไม่น้อย ส่วนแรงงานไทยเสียชีวิตเซ่นไฟสงครามไปแล้วกว่า 20 ศพ บางส่วนขาดการติดต่อและหายตัวไป ขณะที่คนไทยลอตแรก 15 คน เดินทางกลับถึงภูมิลำเนาแล้ว ท่ามกลางญาติพี่น้องไปรอรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ โผเข้ากอดร้องไห้กันระงม

แรงงานไทยชุดแรก 15 คน จากจำนวนกว่า 5.9 พันคน ที่ลงทะเบียนขออพยพหนีภัยสงครามในอิสราเอลเดินทางถึงไทยแล้ว เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า ประตู 10 สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งแต่ช่วงเช้า สื่อมวลชนทุกสำนักกว่า 270 คน ได้มาปักหลักรอรายงานข่าวการเดินทางกลับบ้านของแรงงานไทยชุดแรกจำนวน 15 คน ที่หนีภัยสงครามจากอิสราเอล ออกเดินทางด้วยสายการบินอิสราเอล แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY083 เดินทางมาถึงท่าอากาศ ยานสุวรรณภูมิในเวลา 11.25 น.นอกจากแรงงานไทยที่ลงทะเบียนขอกลับ 15 คนแล้ว ปรากฏว่ายังมีคนไทยอีก 26 คน ร่วมเดินทางกลับมาในเที่ยวบินเดียวกันด้วย ซื้อตั๋วเครื่องบินกลับมาเอง ขณะที่จุดรอรับผู้โดยสารขาเข้าบริเวณชั้น 2 มีครอบครัวและญาติพี่น้องของแรงงานทั้ง 15 คนเฝ้ารอรับการกลับมาด้วยความดีใจ

สำหรับแรงงานที่เดินทางกลับมาชุดแรก 15 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 4 คน ประกอบด้วย 1. นายสมมา แซ่จ๊ะ จ.ตาก บาดเจ็บโดนยิงที่ขาซ้าย ต้องนั่งวีลแชร์ 2.นายจิรายุ สุกใส จ.สุรินทร์ บาดเจ็บที่หัวไหล่ขวา 3.นายวิมาน วงศ์จำปา จ.หนองบัวลำภู ถูกยิงที่แขนซ้าย 4.นายกรัชกร พุทธสอน จ.พะเยา ถูกยิงที่เข่าต้องนั่งวีลแชร์ 5.นายอนุชา บุญญะสาร จ.นครราชสีมา 6.นายกิตติพงษ์ ไชยโก จ.หนองบัวลำภู 7.นายสมบูรณ์ แซ่ว่าง จ.เชียงราย 8.นายจันทร์ดี แซ่ลี จ.เชียงราย 9.นายสุพิพัฒน์ กงแก้ว จ.ยโสธร 10.นายสมพร คาระบุตร จ.หนองบัวลำภู 11.นายธนศักดิ์ จันทร์ดำ จ.หนองบัวลำภู 12.นายสถิตย์ พรมอนารถ จ.หนองคาย 13.นายไกรสร บัวฝาย จ.อุดรธานี 14.นายณรงค์ชัย ลีละครจันทร์ จ.สกลนคร 15.นายวิชัย คำศรี จ.อุบลราชธานี

นางนันทวัน แซ่ลี อายุ 30 ปี ชาวเขาเผ่าม้ง จาก จ.ตาก ภรรยาของนายสมมา แซ่จ๊ะ ที่บาดเจ็บถูกยิงที่ขาซ้าย กล่าวว่า มารอรับสามีกับนางหมี แซ่จ๊ะ อายุ 55 ปี มารดาของสามีเป็นชาวม้งพูดไทยไม่ได้ หลังเกิดเหตุการณ์ในอิสราเอลรู้สึกตกใจมากและพี่ชายได้โทรศัพท์มาบอกว่าสามีถูกยิงที่ขาซ้ายได้รับบาดเจ็บแต่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรมากแค่ไหนเพราะได้พยายามติดต่อกลับไปแต่ติดต่อไม่ได้ รู้สึกดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือกลับมาและจะไม่ให้กลับไปทำงานอีกแล้ว คงจะกลับมาทำไร่เหมือนเดิม

ด้านนางเสวียง เปรินทร์ อายุ 69 ปี แม่ของนายสถิตย์ พรมอนารถ ชาว จ.หนองคาย กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุไม่สบายใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ อยู่บ้านไม่ได้ เครียดมาก กลัวลูกจะเป็นอันตราย ลูกปลอดภัยอยากจะวิ่งเข้าไปกอดทั้งที่ขาเจ็บเดินไม่ค่อยไหว ส่วนจะกลับไปทำงานอีกหรือไม่นั้นต้องแล้วแต่ลูก ขณะที่ น.ส.นิทธยา สุนทรชัย อายุ 50 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายสถิตย์กล่าวเสริมว่า น้องโชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ หลังเหตุระเบิดลงได้เฟซไทม์มาให้ดูว่าอยู่กับทหารในพื้นที่ปลอดภัย เพราะที่อยู่เดิมไม่ได้ระเบิดลง และยังถ่ายรูปโคนมตัวใหญ่ 5-6 ตัว ที่โดนระเบิดตายหมด ฝาบ้านโดนกระสุนปืนพรุนไปหมด น้องไปทำงานที่อิสราเอลได้ประมาณ 2 ปี ก่อนไปต้องกู้หนี้ยืมเงินไปประมาณ 2 แสน แต่ทำงานได้ 11 เดือน สามารถใช้หนี้ได้ทั้งหมด

เวลา 11.00 น. นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รอง นายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.สาธารณสุข เดินทางมาที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า โดยนายพิพัฒน์ ได้เข้าไปพูดปลอบใจญาติที่มารอรับและได้เข้าไปรับแรงงานที่บริเวณทางออกเครื่องบริเวณ Gate D4 มีการกล่าวต้อนรับก่อนที่จะผ่านการตรวจคนเข้าเมืองและรับกระเป๋าเดินทางจากนั้นได้เดินออกมาพบกับญาติพี่น้องที่เฝ้ารอรับการกลับมา ทันทีที่เจอหน้าได้โผวิ่งเข้ากอดกันด้วยความดีใจ บางคนก้มกราบเท้าพ่อที่มารอผูกข้อมือรับขวัญด้วยน้ำตานองหน้า บางคนกอดกันแน่นเป็นเวลานานเพราะนึกว่าจะไม่ได้กลับมาเจอหน้ากันอีกแล้ว

นายปานปรีย์กล่าวว่า ผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือให้เดินทางกลับในวันนี้มี 15 คน และยังมีอีก 26 คนที่ร่วมเดินทางมาด้วย หาซื้อตั๋วโดยสารเอง ขณะนี้มีคนลงทะเบียนขอกลับประเทศจำนวน 5,990 คน รัฐบาลจะพยายามให้ได้กลับมาไวที่สุด แต่การเดินทางในอิสราเอลเวลานี้ลำบากมาก คนที่กลับมาได้แจ้งว่ารัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะสงบเพียงแต่แรงงานจะได้รับความปลอดภัยมากขึ้น รัฐบาลได้ประสานงานกับการบินพาณิชย์หลายสายและทุกสายการบินในไทยให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เชื่อว่าติดต่อทางอิสราเอลและประเทศข้างเคียงได้ พร้อมจะนำคนไทยกลับมาจำนวนมากส่วนจะทำอย่างไรให้กลับมาได้อย่างรวดเร็วและมากที่สุด

 “อาจจะต้องนำออกมาที่ประเทศข้างเคียงหรือประเทศที่สาม เพื่อให้ได้รับความปลอดภัยก่อนจะนำกลับไทย ในส่วนของตัวประกันคนไทยขณะนี้ มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 16 ราย กำลังประสานประเทศข้างเคียงและรัฐบาลอิสราเอลเพื่อให้ดึงตัวประกันออกมาในที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด เชื่อว่ายังปลอดภัยเพราะเราไม่มีความขัดแย้งกับใคร มองไม่เห็นประเด็นไหนว่าจะมาทำร้ายตัวประกัน” นายปานปรีย์กล่าว

ด้านนายสุทินกล่าวว่า ขณะนี้มีความกังวลกันว่าจะมีคนกลับประเทศมากขึ้น ส่วนเครื่องบินที่จะไปรับทางกองทัพแม้จะบินเต็มที่อาจไม่พอความ ต้องการ นอกจากใช้เครื่องบินพาณิชย์เช่าเหมาลำแล้ว จะยังมีแผนที่สองด้วยการใช้เครื่องบินของกองทัพอากาศไปลำเลียงคนไทยออกจากอิสราเอลในจุดเสี่ยง มาไว้ประเทศข้างเคียงก่อน ที่คุยกันไว้จะนำมาไว้ที่ดูไบ แทนที่จะบินยาวกลับไทยอาจจะช้าเกินไป จะบินมาไว้ที่ดูไบก่อนเมื่อพ้นอันตราย ค่อยลำเลียงกลับไทย เป็นการปฏิบัติที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้เลย

นายพิพัฒน์ชี้แจงถึงการเยียวยาว่า แรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บในอิสราเอล รัฐบาลอิสราเอลให้การดูแล หากบาดเจ็บเกิน 19 เปอร์เซ็นต์ จะได้รับการเยียวยาเป็นเงินประมาณ 1,400,000 บาท หากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเกิน 20 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปจะได้รับการดูแลตลอดชีวิต กรณีที่เสียชีวิตอิสราเอลจะให้การเยียวยาภรรยาและบุตรของผู้เสียชีวิต ภรรยาจะได้รับเงินรายเดือนตลอดระยะเวลาที่ยังไม่ได้ไปแต่งงานใหม่ คิดเป็นเงินไทยเดือนละกว่า 30,000 บาท ส่วนบุตรจะได้รับการดูแลจนถึงอายุ 18 ปี จะได้รับเงินเดือน 10,000-15,000 บาท เป็นผลจากการที่กระทรวงแรงงานไทยประสานงานกับทางการอิสราเอล ในส่วนของกระทรวงแรงงานจะเยียวยาผู้เสียชีวิตรายละ 40,000 บาท และมีค่าทำศพอีก 40,000 บาท และจะพยายามให้ได้กลับไปทำงานในอิสราเอลได้อีกครั้ง แบบไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับแรงงานที่ต้องการกลับไป

นายกรัชกร พุทธสอน ชาว จ.พะเยา เล่าเหตุการณ์ถูกยิงที่หัวเข่าว่า วันเกิดเหตุสู้รบช่วงเช้ารุนแรงมาก นายจ้างพาไปหลบภัยที่บ้านจนเที่ยงนายจ้างบอกสงบแล้วได้พากลับแคมป์ ระหว่างทางมีเสียงกระสุนปืนยิงใส่รถ ตอนแรกนึกว่าหินกระเด็นใส่ขาแต่ทะลุออกไปจึงรู้ว่าถูกยิง ได้รีบบอกเพื่อนให้หมอบลงในรถและให้นายจ้างรีบขับพาหนี แต่ถูกไล่ยิงตามหลังจนทะลุตัวถังรถและทะลุกระจกเข้ามา ไปกัน 7-4 คน มีคนถูกยิง 4 คน บางคนโดนยิงแก้ม นึกว่าจะไม่มีชีวิตรอดกลับมาแล้ว เพราะถูกระดมยิงอย่างหนัก เมื่อไปถึงบ้านนายจ้างได้ถูกช่วยเข้าไปในที่หลบภัยและแจ้งหน่วยกู้ชีพมารับไปส่งโรงพยาบาล

ด้านนายสมนา แซ่จ๊ะ ชาว จ.ตาก บาดเจ็บ โดนยิงที่ขาซ้าย เล่านาทีเฉียดตายว่า ตอนเกิดเหตุกลัวมากตนคิดว่าจะไม่ได้กลับมาแล้ว ตอนยิงกันตนหยุดงานนั่งรถกระบะนายจ้างจะไปกินข้าวแต่ถูกไล่ยิงโดยทหารอิสราเอลเพราะเข้าใจผิดคิดว่ากลุ่มคนงานบนรถเป็นกลุ่มฮามาสจึงยิงใส่ ตนได้รับบาดเจ็บที่ขาและยังมีอีกหลายคนได้รับบาดเจ็บด้วย ช่วงที่บาดเจ็บต้องดูแลตัวเอง หายากินเอง มีเพื่อนหาข้าวให้กิน ขณะที่นายกิตติพงษ์ ไชยโก แรงงานจาก จ.หนองบัวลำภู กล่าวว่า วันนี้พ่อมารับ ได้กราบเท้าพ่อ พ่อผูกข้อมือรับขวัญให้ ดีใจมากที่ได้กลับมาและคงจะยังไม่กลับไปอิสราเอลอีกสักระยะหนึ่ง ขออยู่เมืองไทยทำใจก่อน เพราะสูญเสียเพื่อนร่วมงานยังทำใจไม่ได้

 ขณะที่นายชิน ไทยสันเที๊ยะ หนึ่งในแรงงานที่ซื้อตั๋วเครื่องบินเดินทางกลับมาเอง ได้เล่าถึงการเก็บศพของผู้เสียชีวิต ว่า ศพของผู้เสียชีวิตชาวต่างชาติ กลุ่มฮามาส รวมทั้งคนไทย ทางการอิสราเอลจะห่อใส่ถุงและมัดรวมกัน จะแยกออกจากศพของชาวอิสราเอลที่นำไปเก็บในห้องเย็น จะไม่มีการเคลื่อนย้ายเพื่อรอการพิสูจน์ เพราะในวันเกิดเหตุผู้เสียชีวิตไม่มีการพกเอกสารติดตัวเลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จพิธีต้อนรับที่สนามบินสุวรรณภูมิ แรงงานไทยทั้ง 15 คน รวมทั้งญาติพี่น้องได้ขึ้นรถบัสที่กระทรวงคมนาคมจัดมาอำนวยความสะดวกไปที่สถาบันบำราศนราดูร เพื่อเข้ารับการตรวจสุขภาพ ทำการเก็บข้อมูลของแต่ละคน กระทรวงแรงงานได้มอบเงินสิทธิประโยชน์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศที่แรงงานทุกคนได้สมัครเป็นสมาชิกไว้ก่อนที่จะเดินทางไปทำงานในอิสราเอลจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 15,000 บาท โดยคนที่ไม่ติดขัดอะไรสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนาโดยจะมีรถไปส่งถึงที่ ส่วนคนที่ยังกลับไม่ได้ก็มีการจัดที่พักให้ค้างคืน

ต่อจากนั้นนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม นำแรงงานไทยที่เดินทางกลับจากอิสราเอล มาถึงศูนย์คัดกรองสุขภาพ สถาบันบำราศนราดูร โดยรถพยาบาล 2 คัน นำนายสมมา แซ่จ๊ะ ชาว จ.ตาก บาดเจ็บโดนยิงที่ขา และนายกรัชกร พุทธสอน ชาวพะเยา ถูกยิงที่เข่าเข้าคัดกรองรักษาอาการบาดเจ็บและจ่ายชดเชยเยียวยา โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข กล่าวหลังติดตามการคัดกรองสุขภาพ ว่า 15 คน ที่เดินทางมา มี 2 คน อาจต้องส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ราชวิถี เนื่องจากภาวะบาดเจ็บจากการถูกยิงที่บริเวณขาและเข่า ส่วนอีก 2 คน บาดเจ็บแต่ไม่ถึงขั้นรักษาในโรงพยาบาลจะส่งต่อไปตามระบบ ส่วนการประเมินภาวะจิตใจความเครียดจะมีการคัดแยกดูแล คนที่พร้อมกลับภูมิลำเนาจะมีรถนำส่งกลับ

ก่อนหน้านั้นเวลา 09.10 น. วันที่ 12 ต.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นประเทศมาเลเซียเร็วกว่าไทย 1 ชม.) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางจากมาเลเซียไปเยือนสาธารณรัฐสิงคโปร์ว่า เป็นที่น่าเสียใจมีรายงานคนไทยเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รวมเป็น 21 ราย ส่วนความคืบหน้าช่วยเหลือคนไทย ขณะนี้การนำเครื่องบินเข้าไปอิสราเอล กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) รายงานมาว่า เราพยายามหาช่องทางอื่นในการอพยพ น่าจะเป็นทางเรือดีที่สุด แต่น่าเสียดายว่า ท่าเรือที่สามารถขนคนได้ต้องผ่านกาซา ที่เป็นโซนอันตราย ทางเอกอัครราชทูตไทย ประจำอิสราเอลกังวลว่า น่าจะลำบากมีทางเดียวคือ ทางรถยนต์ออกทางจอร์แดนที่พยายามดูอยู่ วันนี้ไม่ใช่แค่ส่งบุคลากรของ กต.ไปช่วยเพียงอย่างเดียว มีหน่วยงานรัฐอื่นๆที่มีความชำนาญการอพยพได้มีติดต่อเข้าไป แต่ขอไม่เปิดเผย และจะส่งบุคลากรเข้าไปอย่างรวดเร็ว

ต่อมาเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ห้องวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ นายเศรษฐา ทวีสิน นายก รัฐมนตรี และ รมว.คลัง เป็นประธานการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (Rapid Response Center : RRC) เพื่อเตรียมการอพยพคนไทยที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบในรัฐอิสราเอล ครั้งที่ 5/2566 มี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.ต่างประเทศ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.ต่างประเทศ และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายณัฐพล ขันธหิรัญ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวรายงานว่า วันนี้สถานการณ์เข้าสู่วันที่ 6 การประชุมมี 3 เรื่องสำคัญคือ 1.การอัปเดตข้อมูลสถานการณ์ทั้งหมดในอิสราเอล จะมีตัวเลขของผู้เสียชีวิตผู้บาดเจ็บและผู้ที่ถูกจับกุม 2.การอพยพคนไทย เป็นครั้งแรกที่มีการอพยพและเดินทางกลับถึงไทย และ 3.การดูแลและการดำเนินการที่เกี่ยวกับผู้ถูกจับกุม

นางพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ได้รายงานสถานการณ์ในอิสราเอล หลังเกิดเหตุการณ์สู้รบ ระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เข้าสู่วันที่ 7 แล้ว ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 11 ต.ค. จนถึงวันที่ 12 ต.ค.ยังคง มีการโจมตีระหว่างกันด้วยจรวดอยู่บ้าง และในวันเดียวกันยังมีการยิงระเบิดเข้ามาในพื้นที่ฉนวนกาซา เวสต์แบงก์ และทางเหนือของอิสราเอล เป็นระยะ ทั้งนี้ ก่อนการประชุมกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งข้อมูลคนไทยในอิสราเอลตามที่ได้รับจากสถานเอกอัครราชทูต ณ เทลอาวีฟ สถานะ ณ วันที่ 11 ต.ค.2566 มีผู้เสียชีวิต 21 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 14 ราย ผู้ถูกควบคุมตัว 16 ราย และคนลงทะเบียนแสดงความจำนงกลับไทย 5,990 คน

ต่อมาเวลา 17.50 น. ภายหลังการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มีพี่น้องชาวไทยอยู่ในเขตอันตรายแสดงเจตจำนงมาแล้วประมาณ 6,000 คน ทูตไทยประจำอิสราเอลแจ้งมาว่า มีความพร้อมที่จะนำคนไทยออกมาจากจุดเสี่ยงได้ประมาณวันละ 200 คน เฉลี่ยแล้วบินได้วันละ 1 ลำ ก็ต้องใช้เวลาอีกประมาณเกือบเดือนกว่าจะลำเลียงออกมาหมด วันนี้วิงวอนหากสายการบินเอกชนไหนที่พอจะช่วยได้ มีเครื่องบินเหลืออยู่ก็หวังว่าคงจะมาร่วมด้วยช่วยกัน

เมื่อถามต่อว่าเครื่องบินการบินไทยมีข้อติดขัดอะไรที่ยังไม่สามารถระบุจำนวนเครื่องบินไปได้จำนวนเท่าไหร่ นายกรัฐมนตรีตอบว่า น่าเห็นใจการบินไทย เพราะเขาไม่มีเครื่องบินไปอิสราเอล เป็นเรื่องของงานเอกสารมากกว่าเรื่องเครื่องบินที่ถูกประกันไว้ แต่เขาอาจจะช่วยอีกทางหนึ่ง โดยไม่ต้องไปบินลงกรุงเทลอาวีฟ เมื่อถามอีกว่าได้ประสานสายการบินของอิสราเอลหรือไม่ เพราะวันนี้ 15 คนไทยที่เดินทางกลับเดินทางด้วยเครื่องบินสายการบินของอิสราเอลที่มีการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า วันนี้มีการพูดคุยกัน อิสราเอลมีเครื่องบินของเขาที่ไปเอาคนกลับมาจากต่างประเทศ และกลับออกไปใหม่ จังหวะที่กลับออกไปใหม่นั้นเป็นอีกทางเลือกที่อาจจะให้คนไทยบินออกไปประเทศที่ไปรับคนของเขา แล้วส่งเครื่องบินไปรับในประเทศที่ไม่อันตราย

เมื่อถามว่าความคืบหน้า ผบ.ทหารสูงสุด ได้ประสานขอกำลังจากอิสราเอล เพื่อช่วยลำเลียงคนไทยทางรถยนต์อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ทุกหน่วยงานกำลังดำเนินการอยู่ โดยทูตได้ประสานมาว่าเริ่มมีสัญญาณที่ดีกับญาติว่าเมื่อไหร่จะรับศพกลับมาบำเพ็ญกุศลได้

เมื่อถามว่าในวันที่ 13 ต.ค. เวลา 08.45 น.นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการหารือกับ น.ส.ออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ที่ทำเนียบรัฐบาล จะมีการพูดคุยในประเด็นใดเป็นพิเศษเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯตอบว่า ต้องขอความเห็นใจ จะพูดคุยว่าเราต้องการความช่วยเหลือด้านไหนบ้างไม่ว่าจะเรื่องการลำเลียงศพออกมา หรือการเจรจาเรื่องตัวประกัน และจะพูดคุยเรื่องแรงงานไทยที่อยู่ในพื้นที่สีแดงที่ถูกนายจ้างบังคับให้ทำงาน ถือเป็นเรื่องสำคัญในเรื่องของสิทธิมนุษยชน ต้องพูดคุยให้ชัดเจนเพื่อให้ช่วยกันอย่างเต็มที่

ช่วงสายวันเดียวกันนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เป็นประธานการประชุมร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย และสายการบินเพื่อสรุปแผนอพยพคนไทยกว่า 5 พันคน ที่แจ้งความประสงค์กลับประเทศ มีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม พร้อมทั้งผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ในประเทศอิสราเอลในขณะนี้ และสรุปแผนเตรียมความพร้อมการอพยพคนไทยกลับประเทศ ตามบัญชาของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่มีความห่วงใยต่อคนไทยให้กลับสู่ประเทศไทยโดยเร็วที่สุด

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ทางนายณรงค์ บุญเสถียรวงศ์ รองอธิบดีกรมการกงสุล ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ได้สรุปว่าขณะนี้สถานการณ์การสู้รบขยายวงกว้างออกไปมาก ส่งผลต่อการเดินทางไปยังจุดต่างๆเกือบทุกแห่ง ทำให้การรวบรวมคนงานไทยไปยังสถานที่ปลอดภัย เพื่อเตรียมการลำเลียงขึ้นเครื่องบินกลับประเทศรวมทั้งการเดินทางไปยังสนามบินเทลอาวีฟ สนามบินเพียงแห่งเดียว ที่ยังคงเปิดใช้งานอยู่ ขณะที่การเตรียมความพร้อมด้านเที่ยวบิน ขณะนี้มีสายการบินของไทยอย่างน้อย 3 สายการบินที่แสดงถึงความพร้อมสำหรับปฏิบัติการรับคนไทยกลับประเทศ ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย การบินไทย และนกแอร์ ที่จะสามารถเดินทางไปรับได้ภายใน 3 วัน เมื่อได้มีการกำหนดแผนและสนามบินที่จะใช้เป็นจุดรับคนไทยเป็นที่ชัดเจนแล้ว อาจเป็นทั้งที่สนามบินเทลอาวีฟ หรือสนามบินอื่นๆ ภายนอกประเทศอิสราเอลที่มีความปลอดภัย

ทั้งนี้ ในส่วนของการขออนุญาตทางการบินเพื่อการส่งกลับประเทศ (Repatriation Flight) จะต้องขออนุญาตทั้งประเทศปลายทางและประเทศที่บินผ่านเป็นกรณีพิเศษที่ประชุมได้สรุปให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ดำเนินการประสานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อยื่นขออนุญาตเป็นทางการกับอิสราเอล รวมทั้งประสานเอกอัครราชทูตไทยจากประเทศอื่นๆ เช่น ประเทศจอร์แดน ในกรณีที่มีแผนจะให้เครื่องบินไปรับนอกเขตแดนของอิสราเอลที่มีพรมแดนติดกัน ตลอดจนประสานประเทศระหว่างทางที่เที่ยวบินพิเศษนี้จะต้องทำการบินผ่านเพื่ออำนวยความสะดวกตลอดเส้นทาง อันเป็นแนวปฏิบัติสากลระหว่างรัฐต่อรัฐในกรณีดังกล่าว ทั้งนี้ในเบื้องต้นสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) ได้มีหนังสือแจ้งไปยังสำนักงานการบินแห่งอิสราเอล (CAAI) ทราบล่วงหน้าแล้ว

ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 90 หมู่ 5 ต.หนองยาง อ.เฉลิมพระเกียรติ บ้านของนางสุรางคณา ขุนศรี แม่ของนายพงษธร ขุนศรี อายุ 25 ปี แรงงานไทย โดยก่อนหน้านี้มีรายงานว่าถูกกลุ่มฮามาสจับเป็นตัวประกัน ไม่ทราบชะตากรรม ล่าสุดรับแจ้งว่านายพงศธรเสียชีวิตแล้ว โดยนางสุรางคณากล่าวว่า สถานทูตไทยประจำประเทศอิสราเอลโทร.แจ้งคืนวันที่ 11 ต.ค.ว่านายพงศธรเสียชีวิตแล้ว วินาทีนั้นตกใจและเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ยังมีความหวังว่าลูกชายรอดชีวิตแม้จะถูกจับเป็นตัวประกัน จึงไปขอพรย่าโมขอให้ลูกชายปลอดภัย แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็ไม่มีจริง

ขณะเดียวกัน ล่าสุดยังมีแรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกัน เป็นชาว จ.หนองบัวลำภู คือนายไพบูลย์ รัตนิน อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ 8 บ้านห้วยหามต่าง ต.ป่าไม้งาม อ.เมืองหนองบัวลำภู โดยรับแจ้งจากนางรุ่งรัดดา ซาเค็น ภรรยา ว่า ติดต่อกับสามีครั้งสุดท้ายวันที่ 6 ต.ค.ที่ผ่านมา กระทั่งเพื่อนสามีส่งคลิปกลุ่มแรงงานไทยประมาณ 5-7 คน ถูกกลุ่มคนพูดภาษาอาหรับ คาดว่าเป็นกลุ่มฮามาส จับใส่รถพ่วงลากจูงด้วยรถไถไปที่ใดไม่ทราบ พร้อมแจ้งว่า 1 ในนั้นเป็นสามี จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้เร่งช่วยเหลือ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แรงงานเข้าตรวจสอบสถานที่ทำงานและที่อยู่ล่าสุด เพื่อรายงานให้รัฐบาลทราบ แล้วประสานทางประเทศอิสราเอลเร่งช่วยเหลือโดยด่วน

ที่ จ.ขอนแก่น เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 159 ม.14 ต.โคกสำราญ อ.บ้านแฮด จ.ขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณี นางณัฐฐาวรี หรือโย มูลกัน อายุ 35 ปี แรงงานหญิงชาวไทย ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. นางบุญญาริน ศรีจันทร์ ผู้เป็นมารดา เล่าทั้งน้ำตาว่า ทราบข่าวว่าลูกสาวถูกจับตัวไปพร้อมแฟนชื่อนายบุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 45 ปี ชาวบ้านหินโงม ต.หินโงม อ.สร้างคอม จ.อุดรธานี ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรม วันเกิดเหตุ ลูกสาวกับแฟนหนุ่มขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงาน ก่อนถูกปล้นเอารถและจับเป็นตัวประกัน ล่าสุดเพื่อนแรงงานไทยส่งคลิปที่กลุ่มฮามาสเผยแพร่ออกมา พร้อมแจ้งว่าคนใส่เสื้อผ้าสีขาวในคลิปคือลูกสาว กำลังนอนขดตัวในรถพ่วงที่ต่อจากรถไถ ไม่รู้นำตัวไปที่ไหน ส่วนนายบุญถม แฟนของลูกสาว เพื่อนแรงงานชาวไทยที่ได้คุยแจ้งว่าถูกยิงเสียชีวิตแล้ว แต่ไม่กล้าบอกญาติ เพราะไม่เห็นศพคนตาย สิ่งที่ทำได้คือตระเวนบนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ลูกปลอดภัย

ส่วนที่ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านเลขที่ 169 หมู่ 2 บ้านสระคุ ต.หนองหัวคู อ.บ้านผือ บ้านนายวิทวัส หรือแจ็ค กุลวงศ์  อายุ 34 ปี แรงงานไทย ที่เอาชีวิตรอดจากการถูกปาดคอ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ระหว่างนั้นเจ้าตัววิดีโอคอลมาพูดคุยกับครอบครัว เล่านาทีเฉียดตายว่า วันเกิดเหตุกำลังเดินอยู่ในฟาร์ม ตรวจดูว่ามีไก่งวงตายหรือไม่ ปรากฏมีการยิงเข้ามา และมีกองกำลังติดอาวุธบุกเข้ามา หลบซ่อนราว 2-3 ชม. เมื่อกองกำลังออกไปแล้ว ออกมาจากที่ซ่อน ได้มีกองกำลังฮามาสบุกเข้ามาอีกครั้ง แล้วใช้มีดพยายามฆ่าปาดคอ พยายามต่อสู้แล้วถูกแทงคอ แทงหลัง และแทงหน้าผาก เลือดไหลออกมาก จนหมดสติ กลุ่มฮามาสคิดว่าตนตายแล้ว หยิบเอาโทรศัพท์ไป หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมง ฟื้นขึ้นมา เดินกลับไปที่แคมป์คนงาน ทางนายจ้างแจ้งทหารอิสราเอลนำส่งโรงพยาบาล 3 วัน ออกจาก รพ.ติดต่อกลับมาบ้านหาภรรยาและลูก ถือว่าโชคดีที่รอดชีวิต

วันเดียวกัน รศ.ดร.วสันต์ พลาศัย รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม ม.นราธิวาสราชนครินทร์ รักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ กล่าวว่า  ม.นราธิวาสราชนครินทร์ ส่งนักศึกษาฝึกสหกิจศึกษา จำนวน 30 คน ที่ประเทศอิสราเอล ณ เขตอาราวา เพื่อเพิ่มพูนทักษะ ประสบ การณ์ทางการเกษตร ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2566 และสิ้นสุดวันที่ 15 ก.ค.67 ทางมหาวิทยาลัยเกรงไม่ปลอดภัย ทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานหลัก 4 แห่ง คือ 1.เอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย 2.รมว.ต่างประเทศ 3.รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ 4.ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ทั้ง 4 ฉบับ ลงวันที่ 12 ต.ค.66 เพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือนักศึกษานำกลับประเทศนั้น หนังสือทั้ง 4 ฉบับถึง 4 หน่วยงานไม่ได้มีการตอบรับและให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้นักศึกษาสหกิจศึกษา 30 คน อาศัยอยู่ที่เมืองอาราวา อยู่ห่างจากฉนวนกาซา ประมาณ 200 กม.กำหนดฝึกงาน 10 เดือน ตอนนี้ผ่านไปแล้ว 2 เดือน แล้วเกิดสถานการณ์รุนแรง เพื่อความปลอดภัย อยากนำเด็กกลับมาก่อน แล้วค่อยส่งกลับไปฝึกงานใหม่

วันเดียวกัน สถานการณ์การสู้รบกองทัพอิสราเอลกับกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซายังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง กองทัพอิสราเอลมุ่งเน้นการโจมตีทางอากาศมุ่งเป้าถล่มหนักทั้งตอนกลาง ตอนใต้ และทางตะวันตกของฉนวนกาซา ตลอดช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มียอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่ได้รับการยืนยันจากทางการปาเลสไตน์เพิ่มขึ้นเป็น 1,354 ราย บาดเจ็บ 6,049 คน ส่วนทางการอิสราเอลเผยยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 1,300 ราย ในจำนวนนี้เป็นทหาร 220 นาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อยราว 3,300 คน

ก่อนหน้านี้นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายก รัฐมนตรีอิสราเอล แถลงการณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ไปยังชาวอิสราเอลทุกคนประกาศการจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อรับมือสถานการณ์สงครามครั้งนี้ ประกอบด้วยนายเนธันยาฮู นายกรัฐมนตรี นายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล และนายเบนนี แกนต์ซ ผู้นำพรรคแกนซ์ ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน และอดีตผู้บัญชาการกองทัพอิสราเอล (IDF) มีสิทธิ์ในการตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับสงครามโดยไม่ต้องปรึกษาคณะรัฐบาลและสภาเนสเซ็ตของอิสราเอล พร้อมระบุว่าอิสราเอลกำลังต่อสู้กับศัตรูที่โหดเหี้ยมเลวร้ายยิ่งกว่าไอซิส พร้อมลั่นวาจาจะกวาดล้างกลุ่มฮามาสให้พังพินาศให้หมดสิ้นไม่เหลือแม้แต่เศษซากบนโลกนี้ ขณะที่กระทรวงพลังงานอิสราเอลออกแถลงการณ์ว่าการตัดน้ำ ตัดไฟในฉนวนกาซาจะดำเนินไปจนกว่ากลุ่มก่อการร้ายฮามาสจะยอมปล่อยตัวประกันทั้งหมด ขณะที่โฆษกกองทัพอิสราเอลสามารถยืนยันตัวตนผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันในฉนวนกาซาได้แล้ว 97 คน