[ad_1]
องค์เทพสามตาหลบไป! มูลนิธิดังสร้างรูปปั้นเทพ ‘สี่หูห้าตา’ หรือ พระอินทร์แปลง องค์ใหญ่ที่สุดในโลก สายมูแห่ขอพรโชคลาภ-ธุรกิจการงาน
องค์เทพสามตาหลบไป! มูลนิธิดังสร้างรูปปั้นเทพ ‘สี่หูห้าตา’ หรือ พระอินทร์แปลง องค์ใหญ่ที่สุดในโลก สายมูแห่ขอพรโชคลาภ-ธุรกิจการงาน
หลังกลายเป็นกระแสในโลกโซเซียลกับสถานที่ขอพรแห่งใหม่ของ ‘สายมู’ เกี่ยวกับรูปปั้นขนาดใหญ่ที่สุดในโลกของเทพ ‘สี่หูห้าตา’ หรือ พระอินทร์แปลง ซึ่งจัดสร้างขึ้นโดยมูลนิธิสุบินนิมิต ซึ่งตั้งอยู่ที่ ม.7 ต.หนองเพรางาย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี
วันที่ 19 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ยังมูลสุบินนิมิตดังกล่าว โดยพบว่ามีรูปปั้น ‘เทพสี่หูห้าตา’ หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่า ‘พระอินทร์แปลง’ ขนาดความสูง 24 เมตร สูงเด่นเป็นสง่าบนพื้นที่กว่า 6 ไร่ของมูลนิธิแห่งนี้ จากการสังเกตพบว่ามีประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติทยอยเดินทางมาสักการะขอพรไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน
อาจารย์สุบิน นะหน้าทอง ผู้ก่อตั้งมูลนิธิสุบินนิมิต เปิดเผยว่า หลังจากที่ตนได้บวชเป็นพระมานานหลายปี ได้มีโอกาสศึกษาอาคมต่างๆมามากมาย ซึ่งในช่วงที่บวชเป็นพระนั้นก็ได้ใช้วิชาอาคมช่วยเหลือสงเคราะห์ลูกศิษย์ไปเป็นจำนวนมาก แต่เนื่องจากในบางครั้งการทำพิธีสงเคราะห์ช่วยเหลือนั้น การดำรงค์อยู่เพศบรรชิตนั้นอาจจะดูไม่เหมาะสมเท่าที่ควร ตนจึงตัดสินใจลาสิกขาออกมา เพื่อใช้วิชาอาคมที่ร่ำเรียนมาสงเคราะห์กลุ่มลูกศิษย์ลูกหาได้เต็มกำลัง จนเป็นที่มาของการก่อตั้งมูลนิธิสุบินนิมิตขึ้นมา
ต่อมาได้มีลูกศิษย์รายหนึ่งยกที่ดินผืนนี้ให้กับทางมูลนิธิฯ ตนจึงตัดสินใจใช้ผืนที่แห่งนี้จัดตั้งเป็นมูลนิธิพร้อมกับสร้างรูปปั้นของเทพสี่หูห้าตา หรือ พระอินทร์แปลง ซึ่งเป็นเทพตามความเชื่อของทางล้านนาที่มีมาตั้งแต่โบราณ มาจัดสร้างด้วยความสูงใหญ่ที่สุดในประเทศไทยหรือในโลกก็ว่าได้ ด้วยความสูงถึง 24 เมตร ด้วยความเคารพและศรัทธาใช้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้ผู้คนที่มีความเชื่อความศรัทธาได้เข้ามาสักการะบูชาได้ทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ไม่มีวันหยุด ซึ่งเป็นรูปปั้นเทพสี่หูห้าตาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและในโลกในตอนนี้
สำหรับประวัติความเป็นมาของเทพสี่หูห้าตา หรือ พระอินทร์แปลง อาจารย์สุบิน เผยว่า ตามตำนานที่ครูบาชัยยะวงศา แห่งวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เล่าไว้ว่า เทพสี่หูห้าตาก็คือร่างที่พระอินทร์แปลงกายลงมาทดลองใจชาวนาในช่วงที่ชาวนากำลังได้รับความเดือดร้อนยากลำบากในตอนนั้น ด้วยการเหยียบย่ำแปลงปลูกข้าวของชาวนาจนได้รับความเสียหาย เพื่อลองใจว่าชาวนาจะมีคุณธรรมในเรื่องความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา หรือไม่ แม้จะถูกชาวนาบางคนเข้าทำร้าย แต่พระอินทร์แปลงก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ จนกระทั่งมีชาวนาคนหนึ่งสงสารให้ความช่วยเหลือ นำพระอินทร์แปลงไปเลี้ยงดู หาอาหารมาป้อนให้ แต่พระอินทร์แปลงก็ไม่ยอมกินอาหารเหล่านั้น จนกระทั่งในตอนกลางคืนที่อากาศหนาวเย็น ชาวนาคนดังกล่าวได้นำฟืนมาก่อกองไฟเพื่อไล่ความหนาวให้กับพระอินทร์แปลง ทำให้พระอินทร์แปลงหยิบท่อนฟืนที่ไฟลุกแดงเข้าใส่ปากกินเป็นอาหารแทน จากนั้นก็ถ่ายออกมาเป็นทองคำ สร้างความดีใจให้กับชาวนาผู้นั้น
ซึ่งเรื่องพระอินทร์แปลง หรือ เทพสี่หูห้าตา นั้น เป็นกุศโลบายที่เปรียบเทียบว่า ศีล 5 เท่ากับ 5 ตา ส่วนหู 4 ข้าง เท่ากับพรหมวิหาร 4 ที่พระอินทร์แปลงมาลองใจชาวนา และเป็นปริศนาธรรมที่ว่า ทองคำที่กว่าจะได้มานั้นเพราะผ่านการหล่อหลอมที่ต้องใช้ความอดทน
อาจารย์สุบิน เผยอีกว่า หลังทางมูลนิธิฯเปิดทำการมาแล้ว 2 ปี มีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทยอยเดินทางมาสักการะขอพรกับเทพสี่หูห้าตาในแต่ละวันพอสมควร โดยส่วนใหญ่จะเดินทางมาขอพรในเรื่องโชคลาภและธุรกิจการงาน ซึ่งเมื่อสมหวังแล้วก็จะกลับมาแก้บนด้วยถ่านก้อนดำ ตามความเชื่อที่ว่าพระอินทร์แปลง หรือ เทพสี่หูห้าตา กินก้อนถ่านเป็นอาหาร ซึ่งขณะนี้ทางรูปปั้นของเทพสี่หูห้าตาก่อสร้างแล้วเสร็จไปแล้วประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอีก 20 เปอร์เซ็นต์ คือการก่อสร้างพญานาค 2 องค์ขนาบที่ฐานซ้ายขวาเท่านั้น ซึ่งกำลังอยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างต่อไป
นายวรวุฒิ อายุ 34 ปี ชาวบ้านที่เดินทางมาขอพร เผยว่า ตนทราบข่าวจากในโซเซียลว่ามีเทพสี่หูห้าตาขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่นี่ ทำให้ในวันนี้ตัดสินใจเดินทางมาขอพรเรื่องโชคลาภและธุรกิจให้ประสบความสำเร็จตามที่หวังไว้ ซึ่งส่วนตัวก็รู้จักและมีความเชื่อเกี่ยวกับเทพสี่หูห้าตามาก่อนอยู่แล้ว
ข่าว ศุภชัย สินธ์ประเสริฐ จ.นนทบุรี
[ad_2]
Source link