[ad_1]
“หลวงตา” ติดต่อช่างศิลป์เข้าเนรมิต “โบสถ์เก่า” อายุ 240 ปี ที่ถูกทิ้งร้าง ชาวบ้านลือกันว่าสุดหลอน “ผีดุ” ให้กลายเป็นสถานปฏิบัติธรรม พร้อมขอญาติโยมไม่มีเลขเด็ด ไม่เจิมรถ ไม่มีวัตถุมงคล โดยขอให้เพียงปฏิบัติธรรม กล่อมเกลาจิตใจ ตามหลักพระพุทธศาสนา
เมื่อวันที่ 12 ส.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบงานศิลปะที่สวยงามแปลกตา ภายในพื้นที่วัดร้าง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดเก่าบ้านหนองตาคง บ้านหนองตาคง ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เป็นพื้นที่ที่เคยเป็นโบสถ์เก่า อายุ 240 ปี ชำรุดเสียหายจนไม่แทบไม่เหลือสภาพเดิม ในพื้นที่ประมาณกว่า 200 ตารางเมตร และมีการบูรณะใช้ศิลปะร่วมสมัยที่ตกแต่งโดยช่างผู้เชี่ยวชาญงานศิลป์ ให้ยังคงความเก่าของวัตถุที่ยังคงเหลืออยู่ ใช้โทนสีที่แลดูเก่าเข้มขลัง และสร้างหลังคาครอบอีกชั้น พร้อมทั้งยังพบลูกนิมิตโบราณ 1 ลูก วางอยู่ด้านหน้าของโบสถ์แห่งนี้
ปุณณ์ธนชัย ม่วงประกาย หรือ อาจารย์ปุณณ์ อายุ 60 ปี ผู้เชี่ยวชาญศิลปะทางด้านจิตรกรรมประติมากรรมและศิลปะสื่อผสม เปิดเผยว่า ในอดีตสถานที่แห่งนี้เป็นวัดเก่าสร้างมาสมัยเสียกรุงครั้งที่ 2 เหลือเพียงซากโบสถ์เก่า ซึ่งเป็นลักษณะโบสถ์มหาอุตม์มีประตูทางเข้าเพียงประตูเดียว นับว่าเป็นสิ่งที่หายาก เหลือซากอิฐเผาไม้เก่าและปูนตำ แต่ถูกปล่อยให้รกร้างมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานนับร้อยปี จนชำรุดผุพัง เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ลือกันว่าที่นี่มีผีดุมาก จึงไม่มีใครกล้าเข้ามา จากนั้นตนได้รับการติดต่อจากพระฐิติโก ภิกขุ ให้มาช่วยบูรณะซ่อมแซมสถานที่โบราณแห่งนี้ให้สวยงามและคงความเข้มขลัง โดยตั้งโจทย์ไว้ว่าให้อนุรักษ์ของเก่าเอาไว้สิ่งใดที่สร้างขึ้นมาให้อนุรักษ์ไว้ไม่ให้ไปทำลายของเก่า แต่แต่งเติมขึ้นมาให้สวยงามน่าชม ตนจึงนำศิลปะประยุกต์เข้ามาผสมผสานจนกลมกลืน ตกแต่งตามรูปแบบเดิมแล้วประกอบขึ้นมาใหม่อย่างเช่นการใช้อิฐเก่าที่ขุดได้บริเวณรอบ เพื่อมาประกอบสิ่งที่หายไปยึดโทนสีเก่าเป็นโทนสีของอิฐและตะไคร่น้ำ โดยสิ่งที่จะสร้างมาใหม่ก็จะจำลองให้ดูขายของเก่า อย่างเช่นเสาหลังคาที่สร้างขึ้นเพื่อค้ำหลังคาครอบตัวโบสถ์อีกทีก็จะดูมีร่องรอยของอิฐแตก โดยใช้เวลาสร้างมากว่า 2 เดือน ขณะนี้ก่อสร้างได้ 80% แล้ว และกำลังออกแบบก่อสร้างต้นโพธิ์พันปีประดับอยู่ด้านหลังของโบสถ์ พร้อมกับจะปูกระเบื้องภายในพื้นที่ทั้งหมด บริเวณรอบนอกจะเป็นการปลูกป่าเพิ่มเติม อาจารย์ปุณณ์ กล่าวต่อว่าอยากจะเชิญชวนพุทธศาสนิกชนที่สนใจจะเยี่ยมชมความสวยงามของโบสถ์มหาอุตม์โบราณหาดูยากหลังนี้และเข้ามากราบพระสนทนาธรรมสามารถเข้ามาได้ทุกวัน ส่วนตัวตนเองนั้นมีความสุข ความภูมิใจที่ได้ทำงานศิลปะชิ้นนี้และสุขใจได้ฟังธรรมะจากหลวงตาอีกด้วย
ด้าน พระฐิติโก ภิกขุ หรือ หลวงตาอ๋อย พระผู้ดูแลสถานที่ เล่าว่า ได้เดินทางธุดงค์มาจากจังหวัดมุกดาหาร พบสถานที่แห่งนี้ ซึ่งขณะนั้นเป็นวัดร้างถูกทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า ซึ่งตนเกิดที่บ้านหนองตาคงแห่งนี้ แต่ได้จากบ้านไปกว่า 40 ปี จนมีโอกาสได้กลับมาจึงอยากพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้มีประโยชน์ ซึ่งทราบว่าสถานที่แห่งนี้ในอดีตเคยเป็นวัดมาก่อน จึงได้ศึกษาและตรวจสอบพร้อทั้งติดต่อไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนานครราชสีมาและกรมศิลปากรหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนพอทราบมาว่าวัดดังกล่าวเคยจัดตั้งขึ้นมาเมื่อปี พ.ศ. 2325 แล้วถูกปล่อยทิ้งร้างมานานกว่า 240 ปี จนโบราณสถานถูกบุกรุก เหลือเพียงซากโบสถ์โบราณที่ชำรุดทรุดโทรมเป็นอย่างมาก ซากอิฐซากปูนซากไม้ที่เหลืออยู่ให้เห็นเพียงเล็กน้อย โดยขณะนี้โฉนดที่ดินก็ยังระบุว่าสถานที่แห่งนี้เป็นวัดร้าง จึงมีความคิดอยากจะพัฒนาสถานที่แห่งนี้ให้เกิดประโยชน์ในการสืบทอดพระพุทธศาสนาต่อไป
จึงมีความคิดจะบูรณะให้สวยงาม แต่ยังจะคงไว้ซึ่งความเก่าให้สมกับเป็นวัดเก่าแก่ 240 ปี และอยากอนุรักษ์เอาไว้ให้คนรุ่นหลัง จึงได้ปรึกษากับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านศิลปะ ให้เข้ามาช่วยออกแบบและสร้าง โดยใช้ปัจจัยจากผู้ที่มีจิตศรัทธา ส่วนใหญ่จะขอบริจาคเป็นอิฐหินปูนทรายตามแต่จิตศรัทธา พร้อมกันนี้ชาวบ้านใกล้เคียงที่มีความรู้เกี่ยวกับการก่อสร้างเมื่อว่างเว้นจากภารกิจการงานก็จะมาช่วยกันออกแรงช่วยสร้างช่วยพัฒนาวัดร้างแห่งนี้อีกด้วย
สำหรับเรื่องภูตผีปีศาจ หลวงตาอ๋อย บอกว่า เป็นสิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา อยากให้ทุกคนมีสติตามหลักคำสั่งสอนของศาสนาพุทธ เหมือนประโยคที่ว่าโปรดใช้วิจารณญาณ แล้วในส่วนชาวบ้านที่ต้องการขอโชคลาภหวยเบอร์ ทางวัดต้องขออภัยไว้ด้วยเนื่องจากหลวงตามีความตั้งใจที่พัฒนาสถานที่แห่งนี้เป็นที่ปฏิบัติธรรมพานั่งสมาธิเดินจงกรม จึงของดในเรื่องของตัวเลข เจิมรถ ของขลังศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ที่วัดแห่งนี้จะไม่มี โดยจะเน้นไปทางปฏิบัติ ใช้ธรรมะกล่อมเกลาจิตใจ ตามหลักพระพุทธศาสนา
สำหรับท่านใดที่อยากไปเยี่ยมชมงานศิลปะโบสถ์มหาอุตม์โบราณ และสนทนาธรรมกับหลวงตาอ๋อย สามารถเดินทางไปที่บริเวณวัดเก่าหนองตาคง วัดตั้งอยู่ติดสระน้ำขนาดใหญ่ของหมู่บ้านหนองตาคง ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองจ.นครราชสีมา
[ad_2]
Source link