Sunday, 6 October 2024

มติพิสดาร

[ad_1]

หวยล็อกศาลรัฐธรรมนูญ 7 ต่อ 2 ให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หน.พรรคก้าวไกล ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566

จนกว่าจะมีคำวินิจฉัยคำร้องของ กกต.กรณีนายพิธาถือหุ้นไอทีวี สื่อผีตายซากเข้าข่ายขาดคุณสมบัติ สส.ตามรัฐธรรมนูญ

บังเอิญเหลือเชื่อที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้นายพิธาหยุดปฏิบัติหน้าที่ สส.ในวันเดียวกับที่ประชุมรัฐสภากำลังพิจารณาจะลงมติเลือกนายพิธาเป็นนายกฯรอบ 2 พอดี

หลังจาก กกต.บังเอิญยื่นคำร้องศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยคุณสมบัติ สส.ของนายพิธา เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2566

ก่อนที่ประชุมรัฐสภาจะโหวต นายพิธาเป็นนายกฯ ครั้งแรกเพียงวันเดียว!!

ความดับเบิลบังเอิญของ กกต.และศาลรัฐธรรมนูญได้ส่งผลร้ายต่อนายพิธาและพรรคก้าวไกลอย่างจังเบอร์

นายพิธา จะรอดปังตอศาลรัฐ ธรรมนูญกลับไปทำหน้าที่ สส.ได้อีกครั้ง!!

หรือ “นายพิธา” จะไม่ได้กลับมาเป็น สส. เพราะโดนตัดสิทธิ เลือกตั้ง 10 ปี??

สาธุชนต้องทำใจร่มๆ รอลุ้นหวยล็อกศาลรัฐธรรมนูญที่ยังออกได้ทั้ง 2 ประตู!!

แต่ที่หมดลุ้นอย่างแน่นอนคือนายพิธาหมดโอกาสได้นั่งเก้าอี้นายกฯคนที่ 30 ของประเทศไทย!!

เพราะโดน สส.ขั้วรัฐบาลเก่ากับ สว.ลากตั้งใช้เสียงข้างมากลากไปลงมติไม่ให้เสนอชื่อนายพิธากลับมาโหวตล้างตา

โดยอ้างเหตุผลกำปั้นทุบดินว่าเมื่อโหวตยกแรกไม่ผ่านความเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของ 2 สภาฯ

นายพิธาไม่มีสิทธิได้โหวตรอบ 2 อีกต่อไป!!

น่าสังเกตว่าคะแนนโหวตสกัดนายพิธา 395 คะแนน สูงกว่าคะแนนโหวตไม่เห็นชอบนายพิธา เป็นนายกฯรอบแรกถึง 15 คะแนน

คาดว่า สส.รัฐบาลเก่า 188 คน สนธิกำลังกับ สว.ลากตั้งอีก 207 คน รุมเตะสกัด “นายพิธา” กระเด็นหลุดวงโคจร

ชัยชนะการเลือกตั้งอย่างท่วมท้นของพรรคก้าวไกลไม่ได้ช่วยให้ นายพิธา ได้เป็นนายกฯคนใหม่ตามหลักประชาธิปไตย

กติกาเส็งเคร็งทำให้ผลเลือกตั้งของประชาชนไร้ความหมายอย่างสิ้นเชิง!!

“แม่ลูกจันทร์” สรุปว่า นายพิธา หัวหน้าพรรคอันดับหนึ่งในสภาฯ กำลังถูกรุมกินโต๊ะรอบทิศทาง

“มติพิสดาร” จากที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวานซืน…

ไม่ได้หวังแค่ล้มนายพิธาคนเดียว

ยังบีบกระเดือกพรรคเพื่อไทย ต้องเขี่ยพรรคก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านสถานเดียว

ถ้าเพื่อไทยอยากเป็นรัฐบาลต้องทรยศพรรคก้าวไกล

ถ้าไม่หักหลังพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยก็อย่าหวังได้เป็นรัฐบาล.

“แม่ลูกจันทร์”

[ad_2]

Source link