Saturday, 27 July 2024

บ้านเมือง – “เศรษฐา” กราบขอโทษ “เฉลิม” ถ้าพูดอะไรไปทำให้รู้สึกไม่สบายใจ

[ad_1]

วันศุกร์ ที่ 06 ตุลาคม พ.ศ. 2566, 17.01 น.

“เศรษฐา” กราบขอโทษ “เฉลิม” ถ้าพูดอะไรไปทำให้รู้สึกไม่สบายใจ ขณะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยพบปะประชาชน อ.พิบูลมังสาหารอุบลราชธานี ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำ หวังว่าน้ำจะไม่ท่วม หรือท่วมน้อยกว่าเดิม  

 เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 ที่เชิงสะพานเสรีประชาธิปไตย สถานีตรวจวัดระดับน้ำ (M7) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ออกมาแสดงความไม่พอใจ ที่นายกฯ เข้ามาให้ความเห็น กรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ประกาศตัดขาดกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เอาเป็นว่าอย่างนี้ดีกว่า ท่านก็ทราบ ตนให้สัมภาษณ์อะไรไปเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนก็ต้องกราบขอโทษท่านแล้วกัน ถ้าทำให้ท่านระคายเคือง และไม่ใช่เรื่องของตน จึงขอไม่พูดต่อ ต้องกราบขอโทษท่านด้วย ถ้าทำให้รู้สึกไม่สบายใจ

เมื่อถามถึงกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ถึงขั้นปรามาสว่านายกฯ จะบริหารประเทศได้ไม่นาน นายเศรษฐา กล่าวว่า ก็รับฟังท่าน รับฟังความคิดเห็น และท่านก็เป็นผู้ใหญ่ เมื่อถามต่อว่าไม่ทำให้เสียสมาธิกับการทำงานใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ เมื่อผู้ใหญ่ไม่สบายใจ เราก็ไม่สบายใจ อยากให้ท่านสบายใจ เมื่อถามอีกว่า จะมีโอกาสได้ไปพูดคุยกันหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสเจอกันที่สภา ก็คงพูดคุยกันเหมือนเดิม ไม่มีอะไร และตนก็ไม่มีอะไร

ติดตามสถานการณ์อุทกภัยพบปะประชาชน อ.พิบูลมังสาหารอุบลราชธานี  

ทั้งนี้เวลา 16.00 น. ณ บริเวณแก่งสะพือ ตำบลพิบูล อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี นายเศรษฐา  พร้อมคณะ ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและพบปะประชาชนอำเภอพิบูลมังสาหาร  นางสาวศิริมาเมธ์วดี ศิรธนิตรา นายกเทศมนตรีเมืองพิบูลมังสาหาร กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำเขตเทศบาลเมืองพิบูลมังสาหารว่า เมื่อปี พ.ศ. 2565 มีประชากรได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จํานวน 1,763 ราย 15 ชุมชน จากทั้งหมด 17 ชุมชนในพื้นที่ จากการรายงานในระบบวอร์รูม อุกทกภัยที่ทางเทศบาลได้พัฒนาขึ้น เพื่อให้ประชาชนและเจ้าหน้าที่ภายในเขตเทศบาลใช้งานร่วมกัน และในปัจจุบันปี 2566 เทศบาลได้นําข้อมูลจากระบบนี้รายงาน คาดการณ์ พยากรณ์น้ำ รวมถึงขอความอนุเคราะห์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเปิดประตูระบายน้ำเบื้องต้น และปรับผังภูมิสังคมในการขุดลอกคูคลองในพื้นที่ทั้งหมด 5 เส้น ได้แก่ ห้วยซัน ห้วยไผ่ ห้วยบุ่งโง้ง ห้วยพอก และห้วยหวาย เพื่อเป็นการระบายน้ำ ซึ่งจากผลการดําเนินการดังกล่าวทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรม จากเดิมมวลน้ำระดับขนาด 6.34 คือระดับน้ำในวันนี้ เทียบกับปี 2565 ซึ่งระดับน้ำที่เท่ากันนี้ประชากรจะได้รับความเสียหาย จํานวน 65 ครัวเรือน แต่ปัจจุบันได้รับการ แก้ไขปัญหา ทําให้มีบ้านเรือนซึ่งต่ำกว่าระดับน้ำ ที่ 6.34 อยู่เพียง 2 ครัวเรือน
 
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวแสดงความดีใจที่ได้มาพบพี่น้องประชาชนชาวพิบูลมังสาหาร พร้อมกับกล่าวว่า แก่งสะพือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดอุบลราชธานี นอกจากการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดใหญ่ ๆ แล้ว รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมจังหวัดท่องเที่ยวที่เป็นเมืองรอง เพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว สร้างรายได้สู่พี่น้องในชุมชน
 
นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำ โดยในปีนี้หวังว่าน้ำจะไม่ท่วม หรือท่วมน้อยกว่าเดิมเพราะมีการเตรียมความพร้อม เตรียมแผนรองรับการบริหารจัดการน้ำ และนอกจากแผนบริหารการจัดการน้ำแล้ว รัฐบาลยังมีแนวคิดในการขยายถนนเพื่อลดความแออัดการจราจรของพี่น้องในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี สามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวก และมีคุณภาพชีวิตที่ดี นอกจากปัญหาที่กล่าวมาดังข้างต้น ยังมีอีกหนึ่งปัญหาคือปัญหาเรื่องยาเสพติด ขอให้ความมั่นใจกับพ่อแม่พี่น้องว่า รัฐบาลจะดูแลแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่ออนาคตลูกหลานของท่านทุกคน 
 



[ad_2]

Source link