Saturday, 27 July 2024

การเมือง – ‘เศรษฐา’ลงตรวจเชียงใหม่ อ้อนชาวเหนือ ขอจัดการน้ำช่วยการเกษตร

[ad_1]

วันอาทิตย์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2566, 06.00 น.

‘เศรษฐา’ลงตรวจเชียงใหม่

อ้อนชาวเหนือ

ขอจัดการน้ำช่วยการเกษตร

ตั้งศูนย์เรียนรู้ดูแลปชช.

ลั่นลุยแก้ปัญหายาเสพติด

พท.ขอโอกาสรบ.ทำงาน

พร้อมรับฟังทุกคำวิจารณ

“นายกฯ” นำคณะลงพื้นที่ภาคเหนือวันที่สอง ลุย “เชียงใหม่” แวะชิมหมูปิ้งข้างทาง บอกนอนหลับสบายเน้นการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร-อุปโภคบริโภค ชมโครงการอุโมงค์ผันน้ำ อ.ดอยสะเก็ด–ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ฯ หลังลงพื้นที่ด่านแม่สาย เชียงราย ดูเศรษฐกิจ-การค้า ลั่นการค้าชายแดนเป็นสิ่งสำคัญ พร้อมตั้งคกก.ร่วมรัฐ-เอกชน ดูการค้าระหว่างปท. เผยลงพื้นที่ เชียงราย ชี้ปัญหายาเสพติดเรื่องสำคัญรัฐบาลเร่งแก้ไข

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2566 ภารกิจในการลงพื้นที่ตรวจราชการพบปะประชาชนในภาคเหนือ ของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นวันที่สอง ถือเป็นการใช้เครื่องบินราชการเป็นครั้งแรก หลังรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา

โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ร่วมคณะด้วย

นายกฯตรวจจัดการน้ำการเกษตร

ในนายกฯมีกำหนดเยี่ยมชมโครงการอุโมงค์ผันน้ำ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่เพื่อตรวจเยี่ยมการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร และอุปโภคบริโภค จะเยี่ยมชมศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อดูการบริหารจัดการที่ดิน การพัฒนาอาชีพ

จากนั้น นายกฯ และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข จะตรวจเยี่ยมดูงานด้านสาธารณสุขปฐมภูมิ ก่อนจะพบปะคนรุ่นใหม่ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อพูดคุยเรื่องเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ระบบขนส่งคมนาคม สังคมและสิ่งแวดล้อม โดยช่วงค่ำวันเดียวกัน นายกฯ จะถือโอกาส เดินตลาดถนนคนเดินบัวลาย

“เศรษฐา”ลงพื้นที่ลุยเชียงใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจในวันที่สอง ในการลงพื้นที่ภาคเหนือ หลังจากที่วานนี้ (15 กย.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ลงพื้นที่บริเวณชายแดนด่านศุลกากรแม่สาย จังหวัดเชียงรายและได้กลับมาพักค้างคืนที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นคืนแรก โดยเช้าวันเดียวกันนี้ เวลา 10.00 น.นายกรัฐมนตรี ยังคงสวมกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบสีขาวถุงเท้าสีแดง พร้อมเสื้อยืดโบโลสีขาว แจ็คเก็ตสีน้ำตาล ตรวจเยี่ยมโครงการอุโมงค์ผันน้ำเพื่อติดตามการบริหารจัดการน้ำด้านการเกษตร และการอุปโภคบริโภค ณ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแม่กวงอุดมธารา ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่

แวะtชิมหมูปิ้ง-บอกนอนหลับสบาย

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนเดินถึงนายกฯได้แวะบริเวณข้างทางปากทางเข้าเขื่อนแม่กวงฯ เพื่อแวะซื้อข้าวเหนียวหมูปิ้งโดยระบุว่าเป็นซอฟพาวเวอร์ เพื่อกินเป็นอาหารเช้า พร้อมกล่าวว่า”เมื่อคืน ที่เชียงใหม่ นอนหลับสบาย ไม่อยากตื่นเลย ไม่ทราบว่าเหนื่อยหรือเปล่า”

ผู้สื่อข่าวกระเช้าว่าทราบหรือไม่ว่าทะเบียนรถที่ใช้ที่จังหวัดเชียงรายทำให้คนแห่ไปซื้อหวยจนหมดแผง นายเศรษฐากล่าวว่า”เหรอครับ แล้วหวยออกวันไหน” เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าออกวันนี้นายกรัฐมนตรีถึงกับหัวเราะชอบใจ พร้อมกล่าวกระเซ้าแม่ค้าว่า”สงสัยอายกล้องเลยไม่ค่อยกล้าออกกล้องเท่าไหร่”

จากนั้น นายเศรษฐาได้ชิมหมูปิ้งอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าลำ (อร่อย)หรือไม่และขอให้ นาย เศรษฐา พูดเป็นภาษาเหนือ นายเศรษฐาถึงกับหัวเราะพร้อมกล่าวว่ามุขนี้เคยลองแล้ว “แป๊ก”ไม่ไหว แต่ก็พยักหน้ายอมพูดว่า’ลำ’

ชาวบ้านร้องแก้ทางเข้าหมู่บ้าน

ก่อนที่นายกฯ เดินทางมาบริเวณสันเขื่อน บริเวณทางเข้าหมู่บ้านป่าสักงาม และสะพานเชื่อมใจ ซึ่งเป็นถนนทางเข้าหมู่บ้าน ประมาณ 5-6 กิโลเมตรโดยความรับผิดชอบของกรมชลประทาน แต่มีปัญหาเรื่องการก่อสร้างมาหลายปี โดยชาวบ้านเล่าให้ฟังว่ามีการก่อสร้างสะพานแล้วเสร็จไปแล้ว 4-5 แห่ง แต่ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไมถนนจึงไม่สามารถสร้างได้และชาวบ้านมีความเดือดร้อนอย่างหนักเพราะมีชาวบ้านอยู่ประมาณ 100 หลังคาเรือน ส่วนถนนด้านบนชาวบ้านไม่นิยมใช้เนื่องจากแคบและอันตราย

สักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับในเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 ก.ย. นายกฯ จะสักการะ อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย เกจิอาจารย์ชื่อดังของชาวเชียงใหม่ก่อนเดินทางกลับนายกฯจะพบปะผู้บริหารการท่าอากาศยานเชียงใหม่เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มเที่ยวบินหลังเที่ยงคืนในการรับนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและจะเดินทางกลับ ในช่วงเที่ยงของวันเดียวกัน

บินร่วมถกแก้ยาเสพติด17กย.

ทั้งนี้รายงานว่าเวลาประมาณ14.00น.วันอาทิตย์ที่ 17 ก.ย.มีรายงานว่านายกฯจะประชุมหารือ เรื่องปัญหายาเสพติดรวมทั้งเป็นประธานในการเผาทำลายของกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะใช้ที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู หรือนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน

และช่วงเช้าวันที่ 18 ก.ย.นายกฯจะเป็นประธานการประชุม ครม.ซึ่งเลื่อนมาจากวันอังคารที่19ก.ย. เนื่องจากวันที่ 18-22ก.ย.นายกฯพร้อมด้วย นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ จะเดินทางเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ที่กรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา มีรายงานว่า หลังเดินทางกลับมาในวันที่ 29 ก.ย.นายกฯ มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อปฏิบัติภารกิจอีกครั้ง

แนะใช้คอนเน็ดชั่นช่วยปชช.

นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ระบุว่า ภายในสองสัปดาห์จะชัดเจนเรื่องที่มาของงบประมาณในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต1หมื่นบาทว่า“ใช่ครับ อีก 2สัปดาห์จะมีความชัดเจน ขอให้ใจเย็นนิดหนึ่ง”

เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯ ได้กล่าวกับนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 วานนี้ (14 ก.ย.) โดยเฉพาะประเด็นเรื่องคอนเน็คชั่น นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องคอนเน็คชั่นหรือเรื่องการใช้สิทธิ์ใด ซึ่งตนเห็นว่า วปอ.เป็นสถาบันที่มีเกียรติ เป็นแหล่งฟูมฟักกำลังสำคัญของประเทศชาติ ก็อยากจะให้ดูให้ดีด้วยว่า จริงๆ แล้วไม่ใช่เป็นแค่คอนเน็คชั่นอย่างเดียว ที่มาใช้ระหว่างพวกกันเอง อยากให้มาดูแลพี่น้องประชาชนด้วย โดยใช้คอนเน็คชั่นเหล่านั้น ให้เป็นประโยชน์มากยิ่งขึ้นไปกว่านี้อีก การใช้ทรัพยากรของรัฐก็อยากให้ใช้ให้มันถูกต้อง ไม่ใช่แค่มีสิทธิ์อย่างเดียว ต้องดูที่หน้าที่และความเหมาะสม เพราะมีคนที่เฝ้าดูกันอยู่หลายคนหลายภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนที่เขาอยากมีตัวอย่างผู้นำที่ดี ไม่มีอะไรหรอก คงเป็นอะไรที่อาจจะแตกต่างจากคำกล่าวของคนอื่นเท่านั้นเอง แต่เป็นความตั้งใจเป็นความหวังดีของตนต่อสถาบัน

เมื่อถามว่าแต่การพูดดังกล่าวนายกฯใช้คำว่าอภิสิทธิ์ชน นายเศรษฐา กล่าวเพียงว่า “ครับ”เมื่อถามถึงกรณีที่นายกฯลงนามแต่งตั้งที่ปรึกษานายกฯ 9คน นายเศรษฐา กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการแบ่งส่วนงานแต่อย่างใด ได้พยายามตั้งให้มีครอบคลุมทุกภาคส่วนและจะพิจารณาแต่งตั้งเพิ่มอีก อย่างที่ตนเคยบอกแล้วว่าอะไรทำได้ตนทำก่อน เช่น ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ก็จะให้มาช่วยดูแลเรื่องกีฬา ก็จะให้ไปดูแลกองทุนที่สนับสนุนกีฬา 1 รัฐวิสาหกิจ 1 ประเภทกีฬา รัฐบาลนี้ยืนยันว่าก็จะทำก่อน เดี๋ยวจะมีรายชื่อเข้ามาเสริมอีก

ชาวบ้านมอบกุหลาบแดงรับคึกคัก

เวลา 12.45น.นายเศรษฐา เดินทางถึงท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย พร้อม ครม.ร่วมคณะ การลงพื้นที่ของนายกฯ ถือเป็นครั้งแรกหลังแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยนายกฯได้สวมเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงิน กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ เมื่อมาถึง ได้มี นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภา คนที่ 3และสส.เชียงราย มาให้การต้อนรับ และมีกลุ่มเครือข่ายสตรีเทศบาลนครเชียงราย นำพวงมาลัยดอกดาวเรือง ดอกกุหลาบสีแดง สีชมพู มามอบให้นายกฯ พร้อมถือป้ายข้อความ “หมู่เฮาจาวเทศบาลนครเจียงฮาย ขอต้อนฮับ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ด้วยความยินดียิ่ง ยินดียิ่งแล้ว แขกแก้วมาเยือน” ขณะที่นายกฯ กล่าวขอบคุณที่มาต้อนรับ

ชาวเมียนมาโบกมือทักทายนายกฯ

จากนั้น นายกฯ เดินตรวจด่านชายแดน พร้อมรับฟัง สถานการณ์การค้าตามแนวชายแดน ต่อมานายกฯ ได้เดินไปยังสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่1 โดยได้กล่าวสวัสดีและทักทายประชาชน ที่มาให้การต้อนรับจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง รวมทั้งนายกฯยังได้โบกมือทักทายประชาชนฝั่งเมียนมาด้วย ซึ่งประชาชนฟังเมียนมาโบกมือทักทายกลับมาเช่นกัน พร้อมกันนี้ระหว่างเดินตรวจด่านนายกฯ กล่าวว่า การค้าชายแดนเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องให้ความสำคัญ และดูแลอย่างรอบคอบ จะสนับสนุนเท่าที่ทำได้ตามกรอบกฎหมายที่มีอยู่ ทั้งนี้ ระหว่างเดินเยี่ยมชมด่านได้มีประชาชนยื่นหนังสือร้องเรียนเรื่องปัญหาสินค้าการเกษตร โดยขอให้นายกฯ เข้าดูแลช่วยเหลือซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับเรื่องเอาไว้

พบชาติพันธ์ต่างๆ-ฟังปัญหายาเสพติด

จากนั้นนายกฯและคณะได้พบปะกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น ชาวเขาเผ่าต่างๆ ได้แก่ เผาอาข่า เผ่าลีซอ เผาราหู่ เผาปกาเกอะยอ เผาลัวะฯลฯ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการผ้าไทยของกลุ่มชาติพันธุ์ เช่น หาปักชนเผ่าไตหย่า ผ้าปักด้วยมือบ้านสันกอง ผ้าไทลื้อ และเยี่ยมชมนิทรรศการ โครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา โมเดล” ก่อนรับฟังและพูดคุยประเด็นการค้าชายแดน (NEC) และยาเสพติด จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคประชาชน อาทิ หอการค้า สำนักงาน ป.ป.ส.รวมทั้งรับฟังประเด็นปัญหาและข้อเสนอของกลุ่มชาติพันธุ์ จากตัวแทนกลุ่มชาติพันธุ์ เพื่อให้รัฐบาลหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่างๆ ดังกล่าวต่อไป

มอบดาบให้นายกฯ-ย้ำศก.เรื่องสำคัญ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนายกฯพบกลุ่มชาติพันธุ์ ได้มอบดาบของของชนเผ่าไทยลื้อให้ แต่นายกฯได้ส่งมอบคืน ต่อมานายกฯ ได้ร่วมประชุมเพื่อแก้ปัญหาการค้าชายแดน ยาเสพติด และชาติพันธุ์ ร่วมกับหน่วยงานราชการ โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า สวัสดี ทุกท่าน ทั้งรัฐมนตรีและข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่ มากันเต็มห้อง บ่งบอกถึงความสำคัญจังหวัดเชียงราย เป็นจังหวัดที่สำคัญมาก มีการค้าเชื่อมโยงไปยังเพื่อนบ้านต่างๆ ไม่ได้มาจังหวัดเชียงรายหลาย 10 ปี และช่วงหาเสียง ไม่ได้มา อีกท่านหนึ่งมา แต่มาแล้วได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นคนเยอะมาก อยากจะทักทายทั้งหมดและพูดคุยกับหน่วยงานราชการทุกหน่วย ถือเป็นจังหวัดแรกๆ ที่ตนพร้อมคณะได้มาเยือนหลังจากได้รับการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ จังหวัดเชียงรายเป็นจุดการค้าสำคัญ จุดหนึ่งของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการขนถ่ายสินค้าจากหลายจังหวัด เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องการเกษตรด้วย ทั้งนี้ ทราบดีว่าปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด อบายมุขทั้งหลาย ตรงนี้รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ ปัญหาสังคมก็เป็นปัญหาใหญ่ แต่ตรงนี้เป็นเพียงจุดหนึ่งของปัญหา ซึ่งชายแดนถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญต้องบริหารจัดการให้ดี ดังนั้นอยากรับฟังความคิดเห็น หากมีอะไรที่จะนำไปให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาต่อไป

เร่งพัฒนาระบบขนส่ง-การคมนาคม

นายกฯ กล่าวว่า ได้รับฟังความคิดเห็นแล้วประเด็นแรกเรื่องการลงทุน ด้านการคมนาคม ต้องเห็นอกเห็นใจภาคเอกชน ขณะที่ภาครัฐบาลเองก็มีภาระทางด้านการลงทุน และงบประมาณเยอะ แต่การเสนอคณะทำงานภาคเอกชนร่วมกับภาครัฐตรงไหนที่สามารถทำได้เร็ว และทำให้การคมนาคมดีขึ้น เพื่อการค้าระหว่างประเทศดีขึ้นและโลจิสติกส์ทั้งหลายคิดว่าทางภาครัฐและเอกชนก็ต้องตั้งคณะกรรมการร่วมกันขึ้นมา โดยจะต้องมีการพิจารณา แต่ถ้าขอทุกอย่างคงทำไม่ได้ เพราะเท่าที่ฟังการใช้งบประมาณคงเยอะพอสมควร โดยเฉพาะเรื่องการท่องเที่ยวตรงนี้สำคัญก็ต้องลิงค์กับปัญหาฝุ่นPM 2.5 ด้วย โดยพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็จะประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ

“ทั้งนี้เราเป็นประเทศที่รักสงบไม่ก้าวก่ายการปกครองภายในของประเทศนั้น เราผลักดันเรื่องการค้าระหว่างชายแดน การที่บอกมาว่าการค้าระหว่างชายแดน 9 หมื่นล้านบาทต่อปีถือว่าสูงมาก ส่วนตัวเชื่อว่าถ้ามีการยกระดับขึ้น น่าจะสูงกว่านี้ได้อีกเยอะ ในแง่ของการทำให้คล่องตัวขึ้น ส่วนในเรื่องการขอวีซ่าต้องดูเรื่องความมั่นคงด้วยต้องระมัดระวัง รัฐบาลนี้พร้อมผลักดันเศรษฐกิจให้โตอย่างยั่งยืนและถาวรผ่านระบบการค้าระหว่างประเทศ ทั้งนี้ฝากด้วยในวันที่ 7-9 ต.ค.นี้จะเดินทางไปประเทศจีน อยากจะขอให้ผู้มีอำนาจฝ่ายมณฑลที่อยู่ติดกับชายแดน ให้เตรียมความพร้อม ในเรื่องของการเจรจาด้วย”นายเศรษฐากล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่หน้าสังเกตว่าระหว่างการลงพื้นที่ของนายกฯ เพื่อพบปะประชาชนและข้าราชการนายกฯได้เดินโค้งไหว้และยิ้มแย้มตลอดช่วงเวลาที่เดินตรวจด่านชายแดน

หนุนการค้าระหว่างประเทศ

ใรช่วงเย็นของวันที่ 15 ก.ย.ที่ด่านแม่สายจังหวัดเชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์อีกครั้งภายหลังการลงพื้นที่ จ.เชียงรายว่า วันนี้มารับฟังปัญหาปัญหาหลายๆด้าน คือ 1.เรื่องการค้าระหว่างประเทศ ด้านการคมนาคมถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญเหนือสุด ในการขนถ่ายสินค้าไปประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีหลายประเทศรวมอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นลาว เมียนมา ไทยและจีน ซึ่งได้รับฟังข้อคิดเห็นจากผู้ประกอบการหอการค้าว่าอยากให้มีการลงทุนในหลายรูปแบบ หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นทางน้ำ หรือทางรถยนต์รวมถึงการสร้างด่านศุลกากรก็ตาม ตรงนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ แน่นอนการขอเหล่านี้ ก็จะมีเรื่องของงบประมาณตามมา ซึ่งจะต้องมีการพิจารณากัน โดยตนได้เสนอแนะไปว่าจะต้องมีการตั้งคณะทำงานระหว่างภาคเอกชนกับภาครัฐ และเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรที่สามารถทำได้ เพื่อกระตุ้นการค้าระหว่างประเทศ

ลั่นรบ.ลุยแก้ปัญหายาเสพติด

นายกฯกล่าวต่อว่า เรื่องที่ 2 ถือเป็นเรื่องที่ใหญ่และสำคัญมากในรัฐบาล คือปัญหายาเสพติดตรงนี้เป็นปัญหาใหญ่ เพราะถือเป็นจุดการค้าระหว่างประเทศ เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดหรือสารตั้งต้นถูกลักลอบมาจากประเทศเพื่อนบ้านเมียนมาตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องอาศัยการถกกันในหลายภาคส่วน แต่ไม่ใช่เรื่องการต่างประเทศอย่างเดียวที่ทำให้เป็นปัญหา แต่ยังมีอีกหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำลายยาเสพติดที่ถูกยึดมาหรือกฎหมายที่ใช้บังคับในเรื่องการยึดทรัพย์ ตรงนี้ตนได้สั่งการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)ไปแล้ว โดยหลังกลับจากจังหวัดเชียงรายและจังหวัดเชียงใหม่ ก็จะไปประชุมกันกับทุกภาคส่วน และให้นโยบายว่าต้องลดการใช้ยาเสพติดลงไปอย่างมีนัยยะสำคัญ

รับแก้ชาติพันธุ์-ปัญหาที่ทำกิน

นายกฯ กล่าวอีกว่า เรื่องที่ 3 ที่ได้คุยกันคือเรื่องของชาติพันธุ์ และเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งมีหลายภาคส่วนได้ประสบปัญหาไม่ว่าจะเป็นเด็ก ซึ่งเกิดที่นี่และถูกส่งกลับไปประเทศเมียนมา เพราะไม่ได้รับการศึกษาที่นี่ หรือไม่ได้สิทธิทำกินทั้งที่อยู่กันมานาน ตรงนี้ เป็นปัญหา ไม่ใช่แค่ชาติพันธุ์อย่างเดียว แต่ก็ยังเป็นปัญหากับคนไทยในหลายครอบครัว ที่ครอบครองที่ดินมาแล้ว ยังไม่ได้รับการแจกเอกสารสิทธิ์ ซึ่งทางพล.ต.อ.พัชวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและรมว. ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงมาในพื้นที่ครั้งนี้ด้วย จึงได้มีการพูดคุยกันในหลายภาคส่วนรวมทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งตนได้สั่งการไปแล้วว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกภาคส่วน

เน้นฝุ่นPM 2.5ยกเป็นปัญหาใหญ่

และเรื่องที่ 4 เรื่อง ปัญหา PM 2.5 ซึ่งถือเป็นปัญหาใหญ่ที่จะต้องจัดการแก้ไข โดยพล.ต.อ.พัชรวาทได้ร่างเอาไว้แล้วถึงวิธีการบริหารจัดการ ในเรื่องนี้ว่าต้องทำอย่างไร ซึ่งจะ sensitive นิดหนึ่งในเรื่องของการปลูกข้าวโพด ในเมียนมา ตรงนี้เราไม่สามารถเข้าไปควบคุมได้ แต่ก็คงต้องมีการเจรจา เพราะการค้าระหว่างประเทศถือเป็นเรื่องสำคัญและอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงไฮซีชั่นในเรื่องของการท่องเที่ยว จังหวัดภาคเหนือ ขณะเดียวกัน ก็เป็นช่วงพีคของการเผาด้วยเช่นกัน ตรงนี้จะต้องให้มีการลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญวันนี้ในการลงพื้นที่ทั้งรองนายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องได้ร่วมลงมาด้วย ฉะนั้นความสำคัญของปัญหาที่จังหวัดเชียงราย รัฐบาลให้ความสำคัญ รวมถึงปัญหายาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติ และ เรื่องของสัญชาติ เราจะไปดำเนินการทันที

เมื่อถามว่ามีรายงานตัวเลขของปัญหายาเสพติดในพื้นที่ด้วยหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า มี แต่จำตัวเลขไม่ได้เยอะมาก รู้สึกว่าจังหวัดเชียงรายจะลดลง แต่จะไปเพิ่มทางอีสานแทน

เมื่อถามอีกว่ามีการพูดถึงเรื่องฟรีวีซ่า ให้กับเมียนมาหรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่ายังเพราะจะต้องมีเรื่องของความมั่นคงด้วย อาจจะมีการทำโดยมาขอวีซ่าตรงด่านได้ เป็นการอำนวยความสะดวกให้การค้าระหว่างชายแดนไทย-เมียนมาดีขึ้น เพราะยอดการค้าอยู่ที่ตัวเลข 9 หมื่นล้านบาทต่อปี และศักยภาพน่าจะไปได้มากกว่านี้ อย่างไรก็ตามเวลาแก้ไขปัญหาก็ต้องดูเป็นเรื่องๆกันไป เพราะปัญหามีหลายมิติ แต่เรื่องการค้าชายแดนเราเห็นว่าเป็นเรื่องบวกที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง

พท.ย้ำรบ.เร่งช่วยเหลือปชช.

เมื่อวันที่ 16 ก.ย.นางสาวลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทยและรักษาการโฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า เวลานี้รัฐบาลของประชาชนที่นำโดยพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลรวม 11พรรคได้ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของประชาชนมาแล้ว นับตั้งแต่วันแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา ในวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ถือว่ารัฐบาลของประชาชน ทำงานมาแล้ว 6 วัน แต่สามารถทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้กับประชาชน ในเบื้องแรก เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในระยะเร่งด่วนและมีผลในทันที ทั้งการประกาศลดราคาน้ำมันดีเซลและค่าไฟทันทีในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา รวมถึงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาวิธีการบรรเทาผลกระทบของพี่น้องประชาชนในเรื่องของหนี้สิน

น้อมรับคำวิจารณ์สร้างสรรค์

โดยเฉพาะการเร่งหารายได้เข้าประเทศผ่านการท่องเที่ยวด้วยการยกเว้นวีซ่า 3 เดือนสำหรับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน ที่มีข้อกังวลเรื่องของการดูความปลอดภัย เรื่องนี้พรรคเพื่อไทย ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการเตรียมการในเรื่องนี่อย่างถี่ถ้วนด้วยเช่นกัน หากมีข้อวิพากษ์วิจารณ์ในระหว่างทางของการทำงาน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ รัฐบาลของประชาชนน้อมรับฟังทุกเสียงที่สร้างสรรค์เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ อย่างไรก็ดี ขอให้พี่น้องประชาชนร่วมกันส่งข้อเสนอแนะมายังพรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลได้ทุกเมื่อ

ขอโอกาสรัฐบาลปชช.ทำงาน

และขอโอกาสให้ สส.และคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของประชาชนได้ทำงานให้สมกับที่เป็นความหวังของพี่น้องประชาชน เราเข้ามาเพื่อที่จะปลดเปลื้องความทุกข์ยากที่เผชิญมาตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา ‘ขอให้เชื่อในพรรคเพื่อไทย’ เชื่อมั่นในเรา ว่าจะเข้ามายกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นอยู่แน่นอน ด้วยนโยบาย ด้วยความร่วมมือกันของรัฐบาล

“ตั้งแต่ Day 1ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นนายกฯ ไม่มีสักวันที่จะหยุดทำงาน วันนี้ พรรคร่วมรัฐบาลมีความตั้งใจที่จะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยไปพร้อมกับนายกฯ นโยบายที่เราได้หาเสียงเอาไว้ เรื่องเร่งด่วนเราเร่งทำ เรื่องระยะยาว เราจะทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน เพื่อให้เห็นผลกับประเทศอย่างมั่นคง” นางสาวลินธิภรณ์ กล่าว

‘สมศักดิ์’ ป้องโฆษกรัฐบาล

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการให้กำลังใจนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีที่กล่าวในการแถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี นัดแรก เมื่อวันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่ารัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์ ว่า โฆษกฯไม่ได้เป็นนักกฎหมายโดยตรง เดิมเป็นนายสัตวแพทย์ แต่เป็นคนที่สื่อสารเข้าใจง่าย ทำงานกึ่งวิทยาศาสตร์ และรัฐศาสตร์ ประชาชนฟังง่าย และเป็นคนเก่ง ชอบสร้างความชัดเจนให้กับเพื่อนฝูงพี่น้อง สำหรับตนคิดว่าหน้าที่โฆษกรัฐบาล ไม่ต้องลงลึกในรายละเอียดมาก แต่หากสื่อถามในเชิงลึกแล้วโฆษกฯพยายามตอบในเชิงลึก อาจยุ่งได้ ทั้งนี้ขอให้เรียนรู้กันไป ปละ1-2 สัปดาห์การทำหน้าที่คงจะเข้าที่

[ad_2]

Source link